ทำความรู้จักกับระบบกรองน้ำดื่ม ก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำมาใช้
แม้ว่าจะมีเครื่องกรองน้ำให้เลือกซื้อมากมาย แต่เครื่องกรองน้ำก็มีระบบกรองน้ำดื่มที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมาพูดถึงระบบที่ใช้ในการกรองน้ำดื่มกันว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ
ระบบกรองน้ำดื่มมีอะไรบ้าง
1. เครื่องกรองน้ำดื่มระบบ RO (Reverse Osmosis System)
เป็นเครื่องกรองน้ำที่ใช้เยื่อเมมเบรนเพื่อกรองน้ำแบบออสโมซิสย้อนกลับผ่าน โดยเยื่อเมมเบรนที่นำมาใช้ทำจากใยสังเคราะห์เซลลูโลสที่มีความละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน ทำให้สารละลายที่ปนเปื้อนมาจากน้ำซึ่งมีขนาด 50-0.0002 ไมครอน ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก, สารเคมีจากยาฆ่าแมลง, ผงซักฟอก ไวรัสและแบคทีเรียต่าง ๆ ไม่สามารถเล็ดลอดผ่านเยื่อกรองไปได้ และจะถูกกำจัดออกจากระบบทันที คงเหลือไว้เพียงน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงทำให้ระบบ RO ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมทั้งกรองน้ำดื่มบรรจุขวด, กรองน้ำจืด, นำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ ฯลฯ เครื่องกรองประเภทนี้มีขั้นตอนการกรองทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่
- นำน้ำเข้าสู่ระบบกรอง เริ่มจากปล่อยน้ำให้ไหลผ่านไส้กรองที่มีความละเอียดสูงถึง 5 ไมครอน เพื่อกรองสิ่งสกปรกออกทั้งหมดและทำให้น้ำที่ได้นั้นมีความบริสุทธิ์มากที่สุด
- แยกน้ำเพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป นำน้ำที่กรองแล้วส่งไปยังเครื่องใช้ปั๊มแรงดันสูงเพื่อแยกน้ำที่กรองแล้วออกและเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำสกปรกที่ยังไม่ได้ผ่านการกรอง เข้ามาปนเปื้อนกับน้ำที่ผ่านการกรองแล้ว ช่วยให้กระบวนการกรองน้ำนั้นดำเนินการได้อย่างราบรื่น
- กรองน้ำผ่านไส้เมมเบรน เมื่อน้ำมาถึงเมมเบรนแล้ว ระบบจะทำการคัดแยกน้ำอีกครั้ง เพื่อจัดการกับน้ำที่ผ่านเครื่องกรองหรือผ่านระบบ RO ทั้งหมด ทั้งไส้กรองที่มีความละเอียดสูงถึง 5 ไมครอน, ปั๊มแรงดันน้ำ และไส้เมมเบรน ซึ่งเมมเบรนจะกรองน้ำขั้นสุดท้ายและส่งน้ำทั้งหมดไปยังขั้นตอนการแยกประเภทต่อไป
- คัดแยกน้ำ หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานของตัวเครื่องกรองน้ำ RO แล้ว น้ำที่ได้จากการกรองจะถูกส่งต่อมาเรื่อย ๆ เพื่อนำไปคัดแยกน้ำออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ น้ำบริสุทธิ์ และน้ำเข้มข้น ทั้งนี้เพื่อให้นำน้ำไปใช้งานต่อไป
- จัดการน้ำเสีย สำหรับน้ำเสียที่นำมาใช้งานไม่ได้จำเป็นจะต้องทิ้ง เนื่องจากมีสารปนเปื้อนทั้งแบคทีเรีย, โลหะหนัก, สิ่งสกปรกอื่น ๆ จะถูกส่งไปยังชุดควบคุมปริมาณน้ำทิ้ง เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำที่ต้องนำไปทิ้ง จากนั้นจึงนำไปทิ้งผ่านโซลินอยด์วาล์ว (Solenoid Valve) เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในระบบ RO
2. เครื่องกรองน้ำดื่มระบบ UV (Ultra Violet Filtration System)
เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีหลักการทำงานคล้ายคลึงกับเครื่องกรองน้ำระบบ RO แต่ประสิทธิภาพการกรองน้อยกว่า เครื่องกรองน้ำระบบ UV สามารถกรองสิ่งสกปรกและเชื้อโรคได้ด้วยระบบการกรองแบบหลอดไฟ UV นอกจากจะกรองน้ำสะอาดแล้วยังเหลือแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเอาไว้ในน้ำด้วย แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถกรองน้ำที่มีตะกอนจำนวนมาก เครื่องกรองประเภทนี้มีขั้นตอนการกรองทั้งหมด 4 ขั้นตอน ได้แก่
- กรองผ่าน Sediment Filter เป็นไส้กรองใยสังเคราะห์ที่มีความละเอียด 5.00 ไมครอน ใช้สำหรับดักจับฝุ่นสิ่งสกปรกและสารแขวนลอยที่ปะปนมากับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นดิน, ทราย, โคลน, หินปูน สนิมเหล็ก ฯลฯ
- กรองผ่าน Pre Carbon Filter เป็นไส้กรองคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้กำจัดกลิ่นคลอรีนและสารอินทรีย์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย ได้แก่ ผงซักฟอก, ไฮโดรคาร์บอน, ฟีนอล ฯลฯ
- กรองผ่าน UV เป็นการนำ UV ชนิด C มากรองเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ปะปนมากับน้ำ
- กรองผ่าน Post Carbon Filter เป็นคาร์บอนที่ใช้ในการปรับปรุงคุณภาพและรสชาติของน้ำโดยกำจัดกลิ่น, สี, ก๊าซ และปรับปรุงรสชาติของน้ำให้น่าดื่ม
3. เครื่องกรองน้ำดื่มระบบ UF (Ultra Filtration System)
เป็นเครื่องกรองน้ำที่สามารถกรองน้ำได้ด้วยความละเอียดถึง 0.01 ไมครอน ภายในไส้กรองบรรจุเส้นใยสังเคราะห์ที่มีขนาดเล็กและละเอียดเอาไว้หลายพันเส้น ซึ่งตัวเส้นใยจะมีรูพรุนขนาดเล็กประมาณ 0.01 ไมครอน สามารถดักจับสิ่งแปลกปลอมทั้งตะกอนและสิ่งสกปรกได้ดี ที่สำคัญยังกรองน้ำสะอาดและคงไว้ซึ่งแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แถมยังไม่มีของเสียจากระบบการกรองแบบนี้ด้วย ข้อดีของเครื่องกรองประเภทนี้คือเราสามารถเปลี่ยนไส้กรองได้ด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากขึ้น ทั้งนี้เครื่องกรองน้ำ UF เหมาะสำหรับกรองน้ำประปามากกว่าแหล่งน้ำดิบอื่น ๆ เครื่องกรองประเภทนี้มีขั้นตอนการกรองทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่
- ไส้กรอง PP 5 ไมครอน ใช้กำจัดตะกอนและสารแขวนลอยจากท่อส่งน้ำประปา
- ไส้กรอง Premium Block Carbon ใช้กำจัดตะกอน, สี, กลิ่น และคลอรีนในน้ำ
- ไส้กรอง Resin ใช้กำจัดหินปูนและปรับรสชาติน้ำให้น่าดื่ม
- ไส้กรอง UF เป็นไส้กรองที่มีความละเอียดอยู่ที่ 0.01 ไมครอน ใช้กรองสิ่งสกปรกทุกชนิดที่ปะปนอยู่ในน้ำ
- ไส้กรอง Inline Carbon 10 (USA) ใช้กรองสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าแมลง, สารปรอท, สารหนู, สารอินทรีย์ นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดสีและกลิ่นที่ตกค้างอยู่ในน้ำ
4. เครื่องกรองน้ำระบบ MF (Micro Filtration System)
เป็นเครื่องกรองน้ำที่มีความละเอียดในการกรองสูงสุดถึง 0.1 ไมครอน สามารถกรองสารแขวนลอยและเชื้อแบคทีเรียในน้ำได้โดยไม่มีน้ำทิ้ง มีขั้นตอนการกรองทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่
- Sediment Filter ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกขนาดเล็กที่ปนมากับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น, ทราย และสารแขวนลอย มีความละเอียดในการกรองอยู่ที่ 1 ไมครอน
- Carbon Filter ทำหน้าที่กรองกลิ่น, สี และคลอรีนซึ่งปนมากับน้ำ ดักจับสิ่งสกปรก ช่วยให้น้ำไหลผ่านช่องว่างระหว่างเกล็ดคาร์บอน มีความละเอียดในการกรองอยู่ที่ 5 ไมครอน
- Micro Filtration Membrane ทำหน้าที่กรองแบคทีเรียและไวรัสที่ปะปนมากับน้ำดิบ มีความละเอียดในการกรองอยู่ที่ 0.1 ไมครอน
- Post – Carbon Filter ทำหน้าที่ปรุงแต่งรสชาติของน้ำให้เหมาะกับการดื่มมากขึ้น
- Ultra – Violet Sterilizer ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยแสง UV
ชนิดของสารกรองและไส้กรอง
- สารกรองคาร์บอน มีคุณสมบัติช่วยลดระดับคลอรีนในน้ำ ช่วยกำจัดกลิ่นและรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ และขจัดโลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับน้ำประปาได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
- สารกรองเรซิ่น มีคุณสมบัติเปลี่ยนประจุในน้ำ, ลดความกระด้างของน้ำ, ลดการเกิดหินปูนและตะกรัน, ดูดซับสีและกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีอายุการใช้งานประมาณ 6 – 8 เดือน
- สารกรองแอนทราไซต์ มีคุณสมบัติดูดจับตะกอนไว้ที่ผิวภายนอก, ดักจับสารแขวนลอย, กักเก็บสารแขวนลอยได้ในปริมาณมาก มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
- สารกรองถ่านกัมมันต์ หรือแอ็คทิเวตเท็ด คาร์บอน มีคุณสมบัติช่วยกรองสี, กลิ่น, คลอรีน รวมถึงโลหะหนักอื่น ๆ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำ
- ไส้กรอง PP ทำมาจากเส้นใยโพลีโพรพิลีน มีคุณสมบัติดักจับสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ และสารแขวนลอยที่ปะปนมากับน้ำ มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน
- ไส้กรองเยื่อ UF ประกอบไปด้วยรูพรุนขนาดเล็กจนแบคทีเรียขนาดเล็ก (0.1 – 600 ไมโครเมตร) ก็ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ จึงมีคุณสมบัติดักจับแบคทีเรียในน้ำได้ดี มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี
- ไส้กรองจีบ มีคุณสมบัติกรองสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสนิม ไส้กรองชนิดนี้มีความละเอียดประมาณ 30 ไมครอน มีอายุการใช้งานประมาณ 3-6 เดือน
- ไส้กรองเมมเบรน เป็นไส้กรองที่มีความละเอียดสูงถึง 0.0001 ไมครอน มีคุณสมบัติกรองสารละลายที่ปนเปื้อนมากับน้ำทุกชนิด สามารถกรองน้ำเค็มให้จืดสนิทได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง
ซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดี
1. ซื้อเครื่องกรองน้ำที่รองรับได้ทุกแหล่งน้ำดิบ
กรณที่คุณอาศัยอยู่กรุงเทพมหานคร อาจไม่ต้องกังวลมาก เนื่องจากแหล่งน้ำดิบในกรุงเทพฯ เป็นน้ำประปา จึงสามารถเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำได้ทุกรูปแบบ แต่หากคุณอาศัยอยู่ในต่างจังหวัดหรือพื้นที่ห่างไกล อาจต้องนึกแหล่งน้ำที่ใช้อยู่ในปัจจุบันด้วยว่าเป็นน้ำประปาหรือไม่ ถ้าเป็นน้ำอื่น เช่น น้ำบาดาล, น้ำบ่อ ฯลฯ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มีสารปนเปื้อนมากกว่าน้ำประปา ก็ควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีระบบกรองน้ำดื่มอย่างระบบ RO (Reverse Osmosis System) จะดีที่สุดค่ะ เนื่องจากเป็นระบบที่สามารถกรองสารปนเปื้อนได้ทุกชนิดด้วยเยื่อเมมเบรนที่มีความละเอียดสูง ช่วยกรองให้เหลือเพียงน้ำบริสุทธิ์เท่านั้นที่ไหลเข้าไปยังระบบกรอง
2. ซื้อตามรูปแบบการใช้งาน
หากคุณจะซื้อไปใช้ภายในครอบครัวเล็กหรือใช้เพียงคนเดียว อาศัยอยู่ในหอพักหรือคอนโดมิเนียม ควรเลือกเครื่องกรองน้ำขนาดกะทัดรัด, ติดตั้งได้หลากหลายตำแหน่ง, ไม่เกะกะขวางทาง หรือหากคุณนำไปใช้ในบริษัทก็ควรเลือกเครื่องกรองที่สามารถกดน้ำได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น เพราะถ้าคุณเลือกเครื่องกรองน้ำที่สมเหตุ จุะช่วยประหยัดเวลาในการดูแลรักษา ไม่ต้องเสียเวลามานั่งดูแลบ่อย ๆ แต่หากคุณซื้อเครื่องกรองที่มีระบบมากเกินความจำเป็น อาจเสียเงินโดยใช่เหตุค่ะ
3. เลือกจากขนาดของเครื่องกรอง
เครื่องกรองน้ำ ขนาดเล็ก ดียังไง เลือกซื้อแบบไหนดี
หากคุณอาศัยอยู่คนเดียว อยู่กันไม่กี่คน การใช้เครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่อาจไม่สะดวกสำหรับคุณ แต่หากอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่หรือต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำมาใช้กรองภายในชุมชน ก็ควรเลือกเครื่องกรองที่สามารถกรองน้ำได้ทุกประเภทเพื่อความสะอาดต่อการนำน้ำมาใช้อุปโภคบริโภค และที่สำคัญควรเลือกเครื่องกรองที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ในด้านกระบวนการผลิต ทั้งนี้อาจเลือกเครื่องกรองน้ำที่ผ่านมาตรฐานการรับรองอื่น ๆ เช่น WQA (Water Quality Association) การรับรองจากสมาคมคุณภาพน้ำดื่มแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ T Mark (Thailand Trusted Mark) การรับรองมาตรฐานจากประเทศไทย เป็นต้น
เครื่องกรองน้ำ ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจเครื่องกรองน้ำดื่มที่มีระบบกรองน้ำดื่มคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
