ค่า ph ของน้ำคืออะไร แบบไหนเหมาะกับการดื่มบ้าง
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ค่า pH ของน้ำ แต่อาจไม่รู้จักหรือไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำอย่างไร วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ค่า pH ของน้ำคืออะไร
pH ย่อมาจาก Pondus Hydrogenii เป็นการวัดค่าความเข้มข้นของอะตอมไฮโดรเจนเพื่อหาความเป็นกรด-ด่างของสารละลาย, ของเหลวและน้ำ โดยแบ่งค่า pH ตั้งแต่ 0 – 14 มีค่ากลางอยู่ที่ 7.0 หากน้ำมีค่า pH มากกว่านั้นถือว่าเป็นด่าง ส่วนน้ำที่มีค่า pH น้อยกว่านั้นถือว่าเป็นกรด ซึ่งในประเทศไทยได้มีการกำหนดค่า pH มาตรฐานของน้ำไว้ระหว่าง 6.5 – 8.5 และในปัจจุบันมีวิธีวัดค่า pH ที่เป็นที่นิยมทั้งหมด 2 วิธี ได้แก่ การใช้กระดาษลิตมัสทดสอบและเทียบสี, การใช้ pH Meter ที่มีหน้าจอแสดงผลค่า pH และน้ำยาทดสอบ pH
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่า pH ในน้ำแตกต่างกันนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบสภาพอากาศ, กระบวนการทางธรรมชาติ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง หากน้ำมีค่า pH ต่ำหรือสูงมาก อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าน้ำมีมลพิษหรือพบแบคทีเรียในน้ำ ข้อเสียของน้ำที่มีค่า pH มากเกินไป อาจทำให้น้ำที่นำมาใช้อุปโภคไปลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น ยาสระผม, สบู่, ผงซักฟอก ฯลฯ แต่หากน้ำมีค่า pH น้อยเกินไป อาจไปกัดกร่อนโลหะจนเป็นอันตรายต่อการอุปโภคบริโภคได้
ค่า pH ของน้ำที่แตกต่างกัน มีอะไรบ้าง
- pH 0 พบได้ในกรดไฮโดรคลอริก, แบตเตอรี่
- pH 1 พบได้ในกรดในกระเพาะอาหาร
- pH 2 พบได้ในเลมอน
- pH 3 พบได้ในน้ำส้มสายชู, น้ำอัดลม
- pH 4 พบได้ในมะเขือเทศ
- pH 5 พบได้ในกาแฟ
- pH 6 พบได้ในนม
- pH 7 พบได้ในน้ำดื่ม
- pH 8 พบได้ในเลือด
- pH 9 พบได้ในไข่ขาว, เบกกิ้งโซดา
- pH 10 พบได้ในยาโรคกระเพาะ
- pH 11 พบได้ในสารละลายแอมโมเนีย
- pH 12 พบได้ในสบู่
- pH 13 พบได้ในสารฟอกขาว
- pH 14 พบได้ในผงแก้ท่อตัน
น้ำดื่มที่ดีควรมีค่า pH เท่าไหร่
น้ำดื่มที่ดีควรมีค่า pH 7 ซึ่งเป็นระดับที่ดื่มได้ ปลอดภัยต่อร่างกาย หากร่างกายได้รับน้ำที่มีค่า pH ไม่เหมาะสม (ต่ำหรือสูงเกินไป) อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ทางที่ดีควรเลือกดื่มน้ำที่มีความสะอาดสูง ปราศจากสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดความเป็นกรดที่มากเกินไปและกำจัดของเสียออกจากร่างกาย อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายจึงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาวะสมดุลให้แก่ร่างกาย
สำหรับใครที่ต้องการดื่มน้ำที่มีทั้งค่า pH ในระดับพอดีและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย น้ำอัลคาไลน์ หรือน้ำด่าง จัดเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใครหลายคนให้ความสนใจ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ น้ำอัลคาไลน์แบบปกติ และน้ำอัลคาไลน์จากการทำปฏิกิริยา Ionization (การแตกตัวเป็นไอออนของน้ำ) ส่วนวิธีการผลิตน้ำอัลคาไลน์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การผลิตน้ำอัลคาไลน์ผ่านเครื่องกรองน้ำ (กระบวนการ Ionization) และการผลิตน้ำอัลคาไลน์ด้วยกระบวนการทางเคมี สำหรับน้ำขวดอัลคาไลน์ที่วางจำหน่ายทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้กระบวนการทางเคมีโดยการเติมแมกนีเซียม (Magnesium) หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) หรือเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) ลงในน้ำ เพื่อเพิ่มค่า pH ให้น้ำจนเกิดเป็นน้ำอัลคาไลน์ขึ้นมา แต่ทางที่ดีคุณควรดื่มน้ำอัลคาไลน์ที่ผลิตมาจากเครื่องกรองน้ำระบบ RO จะดีที่สุด เพราะนอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังไม่ต้องเสียเวลามาเลือกซื้อหรือนั่งทำน้ำอัลคาไลน์ด้วยตัวเองอีกด้วย
ค่า pH ที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อร่างกายคนเราอย่างไรบ้าง
โดยทั่วไปเราควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว เนื่องจากร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำมากกว่า 60% หากเราดื่มน้ำที่มีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินพอดี อาจไปรบกวนสมดุลของกรดด่างในร่างกาย จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง, ระบบย่อยอาหารอักเสบ, โรคเกาต์, โรคผิวหนัง ฯลฯ ดังนั้นควรศึกษาหาข้อมูลในการเลือกดื่มน้ำประเภทต่าง ๆ ให้ดีนะคะ
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจน้ำแร่ที่มาจากเครื่องกรองน้ำด่างคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
