ผิวขาดน้ำ

รักษาอาการผิวขาดน้ำได้ง่าย ๆ ด้วยการดื่มน้ำอย่างถูกวิธี

รู้หรือไม่? อาการผิวขาดน้ำ (Dehydrated skin) หรือผิวสูญเสียความชุ่มชื้นนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงทุกสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้งก็ตาม อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน และสิ่งที่ช่วยได้มากที่สุดก็คือ “น้ำดื่ม” นั่นเองค่ะ วันนี้เราจึงมีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับความสำคัญของน้ำที่มีต่อความชุ่มชื้นของผิวหนังมาฝากค่ะ

สัญญาณบอกอาการผิวขาดน้ำ

หลายคนอาจจะได้พบเจอปัญหานี้ ซึ่งได้สูญเสียความชุ่มชื้นไปไม่มากก็น้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะแยกไม่ออกว่าปัญหาที่พบเกิดจากผิวที่ขาดน้ำ หรือเป็นปัญหาผิวแห้ง โดยทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกัน

ผิวขาดน้ำ

ผิวที่สูญเสียความชุ่มชื้นหรือผิวที่ขาดน้ำ จะมีลักษณะอาการคือผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง และหากปล่อยให้ขาดความชุ่มชื้นในระยะเวลานาน จะทำให้เกิดริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนังอย่างชัดเจน เนื่องจากสูญเสียคอลลาเจน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หน้าผาก รอบดวงตา ร่องแก้ม และริมฝีปาก อาจทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทนนาน เกิดจากผิวหนังมีน้ำอยู่ใต้ชั้นผิวหนังน้อยเกินไป อาจเพราะดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวัน หรือเกิดการสูญเสียน้ำเพราะภาวะขาดน้ำ

ผิวแห้ง จะมีลักษณะผิวแตก ผิวลอกเป็นขุย ผิวหยาบ และอาจรู้สึกตึง ๆ ที่ผิวหนัง โดยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อากาศเย็น ไม่ว่าจะเป็นช่วงหน้าหนาวหรือความเย็นจากการอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน การแช่น้ำร้อนเป็นเวลานาน การทำความสะอาดผิว และมลภาวะต่าง ๆ เป็นต้น

รับมือกับอาการนี้ได้อย่างไร

ภาวะนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีก ซึ่งการรับมือกับอาการนี้นั้นทำได้ไม่ยาก สามารถเริ่มทำได้ด้วยการดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอและร่างกายต้องการได้รับในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว สภาพอากาศ และกิจกรรมที่คุณทำให้แต่ละวัน เนื่องจากผิวหนังของมนุษย์เรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 60-70% ความสมดุลของน้ำในเซลล์และเนื้อเยื่อของผิวหนังนั้นจึงมีความสำคัญต่อสภาพของผิว

นอกจากนี้คุณยังสามารถรักษาอาการนี้ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงอาหารและวิถีชีวิตบางอย่าง เช่น ลดการดื่มแอลกอฮอล์หรือดื่มในปริมาณที่เหมาะสม, ลดการดื่มชากาแฟและคาเฟอีนอื่น ๆ , งดการสูบบุหรี่, ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารประเภท ผลไม้ ผัก และพืชตระกูลถั่ว ให้มากขึ้น, และการใช้สกินแคร์ โลชั่นบำรุงผิวต่าง ๆ แต่หากมีภาวะนี้อย่างรุนแรง ต้องเข้าพบและปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อเพิ่มปริมาณของเหลวทางเส้นเลือด

น้ำทำให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างไร

จากการวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า น้ำมีความสำคัญต่อผิวหนังเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง กระจ่างใส คงความยืดหยุ่นของผิว และช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม อีกทั้งยังช่วยในกระบวนการการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก โดยนักวิจัยพบว่า เมื่อผู้ที่มีอาการขาดน้ำ ได้ทำการเริ่มดื่มน้ำมากขึ้น มีการส่งผลกระทบต่อลักษณะของผิวและช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นของผิวได้

ผิดขาดน้ำ

ความชุ่มชื้นของผิว เป็นตัวสะท้อนของความชุ่มชื้นในร่างกายทั้งหมด เมื่อเกิดภาวะขาดน้ำ การส่งผ่านน้ำจากระบบไหลเวียนโลหิตสู่ผิวหนังจะน้อยลงทันที เนื่องจากเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยน้ำ การได้รับน้ำที่เพียงพอจะสามารถปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดในร่างกายและส่งต่อมายังผิวหนัง เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายของคุณไม่รู้สึกขาดน้ำ

การดื่มน้ำมากขึ้นอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิวของคุณก็จริง แต่หากคุณเป็นคนที่ดื่มน้ำตามปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับ หรือดื่มน้ำมากอยู่แล้วในแต่ละวัน การดื่มน้ำเข้าไปเพิ่มจะไม่ช่วยให้สุขภาพหรือลักษณะผิวของคุณดีขึ้น เนื่องจากมีความชุ่มชื้นที่เพียงพออยู่แล้ว ดังนั้นการเพิ่มขั้นตอนการดูแลผิวหนังของคุณ ที่นอกเหนือจากการดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการได้รับ จะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้สุขภาพผิวของคุณดีขึ้น คงความชุ่มชื้นของผิวได้

บทความที่น่าสนใจ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart