ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ดีจริงมั้ย? ควรดื่มแค่ไหนให้ดีต่อร่างกาย

หลายคนคงเคยได้ยินมาว่าดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ดีต่อร่างกาย แล้วการดื่มน้ำตามจำนวนดังกล่าวดีต่อร่างกายจริงมั้ย 8 แก้วที่ว่าต้องเป็นแก้วขนาดไหน แล้วการดื่มน้ำ 8 แก้วเหมาะกับทุกคนจริงมั้ย ควรดื่มแค่ไหนถึงจะดีต่อร่างกาย วันนี้เรามีคำตอบค่ะ

ดื่มน้ำน้อยไป ทำร้ายสุขภาพได้อย่างไรบ้าง

ต้องเข้าใจก่อนนะคะว่าร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 2 ใน 3 และน้ำเป็นตัวทำละลายสำคัญที่ช่วยลำเลียงสารอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพทันทีที่ร่างกายเข้าสู่สภาวะขาดน้ำ ได้แก่

  • ภาวะขาดน้ำ เป็นภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำในหลอดเลือดและเซลล์มากกว่าน้ำที่รับเข้าสู่ร่างกาย ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้นจนต้องดึงน้ำจากเซลล์ออกมาควบคุมระดับน้ำตาลให้สมดุล ส่งผลให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกกระหายน้ำง่ายขึ้น และด้วยความที่น้ำเป็นสารละลายที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หากขาดน้ำนาน ๆ อาจทำให้ผิวหนังบริเวณตาและปากแห้งกร้านอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายขับของเสียออกทางปัสสาวะน้อยลง ด้วยความที่สมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่จำนวนมาก หากสมองขาดน้ำจึงทำให้รู้สึกมึนงง ปวดศีรษะ กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบมากขึ้น หากอาการรุนแรงมากอาจมีไข้ หัวใจเต้นเร็วแรง หายใจหอบถี่ บางรายอาจถึงขั้นช็อก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้อีกด้วย
  • ปวดข้อปวดกระดูกง่ายขึ้น น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกมากถึง 80% หากไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงกระดูกจนกระดูกแห้งเป็นเวลานาน ส่งผลให้ข้อต่อดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดี ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บและอักเสบง่ายกว่าปกติ
  • โรคนิ่ว เมื่อดื่มน้ำน้อยไป ทำให้แร่ธาตุต่าง ๆ สะสมจนกลายเป็นก้อนแข็งตกค้างบริเวณทางเดินปัสสาวะจนกลายเป็นโรคนิ่ว สังเกตอาการได้จากความรู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย มีสีแดงขุ่น หรืออาจมาพร้อมอาการปวดบิดขั้นรุนแรง
  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เมื่อร่างกายขาดน้ำ จึงไม่มีน้ำสำหรับสร้างประจำเดือน นอกจากจะทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอแล้ว ยังปวดประจำเดือนหนักขึ้นด้วย
  • สมองเสื่อม เพราะมีน้ำไปเลี้ยงเลือดไม่พอ จึงทำให้เลือดหนืดมากและหัวใจสูบฉีดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้รู้สึกไม่สดชื่น สมองไม่ตื่นตัว ไม่มีสมาธิ คิดอะไรเชื่องช้า

ดื่มน้ำมากไป ดีหรือไม่

แม้ว่าการดื่มน้ำน้อยไปจะส่งผลเสีย แต่การดื่มน้ำมากไปก็ส่งผลเสียเช่นกัน เพราะการมีน้ำเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication) และเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น

  • ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) เป็นภาวะที่โซเดียมในเลือดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 135 mEq/L ส่งผลให้คนไข้รู้สึกปวดศีรษะ, คลื่นไส้, อาเจียน, กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้, เป็นตะคริว, สมองบวมจนชักกระตุก ปอดบวม หากรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย
  • ไตทำงานหนักเกินไป เมื่อไตทำงานหนักเพราะกรองน้ำจำนวนมากเกินไปออกจากเลือด ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย แต่หากดื่มน้ำมากเป็นเวลานาน อาจกลายเป็นโรคร้าย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง ฯลฯ
  • หัวใจทำงานหนัก ทำให้ลำไส้เล็กเกิดการออสโมซิส (Osmosis) โดยร่างกายจะนำน้ำเข้าไปยังกระแสเลือด ส่งผลให้ปริมาตรเลือดเพิ่มสูงขึ้น หัวใจจึงต้องทำงานหนักเนื่องจากหัวใจห้องซ้ายล่างเกิดการบีบตัว ทำให้น้ำที่เข้าสู่ร่างกายไหลจากหลอดเลือดดำไปยังปอด และไหลย้อนกลับมายังหัวใจ ทำให้หัวใจบีบไม่ทันจนเกิดอาการช็อกได้ในที่สุด

ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ดีจริงมั้ย?

ไม่จริงเสมอไป เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นการดื่มน้ำวันละ 8 แก้วจึงไม่เหมาะกับทุกคน และเพื่อให้คุณดื่มน้ำตามปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน เราจึงขอแนะนำสูตรคำนวณหาปริมาณน้ำของคุณโดยเฉพาะ ดังนี้ >> น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2 จะได้ปริมาณน้ำที่ร่างกายคุณควรได้รับในแต่ละวัน

ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนัก 70 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 2,310 มิลลิลิตร หรือ 2.3 ลิตรโดยประมาณ

ทั้งนี้คุณอาจดื่มเกินจากสูตรคำนวณได้เล็กน้อย หากวันนั้นคุณต้องออกกำลังกายอย่างหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะกว่าปกติ

ทำไมต้องดื่มน้ำจากเครื่องกรองน้ำ Live Healthy

เรา Live Healthy เป็นบริษัทจัดจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำด่างมานานถึง 13 ปี ด้วยความที่เครื่องกรองน้ำของเราสามารถกรองน้ำได้จากทุกแหล่งน้ำดิบและสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย ได้รับรางวัลจากสถาบันชั้นนำต่าง ๆ จนเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าผู้ใช้มากมาย ทั้งสถานพยาบาล, หน่วยงานราชการและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพตัวเอง ทำให้เรามียอดขายด้านน้ำด่างเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย เนื่องจากความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ทางเราจึงพัฒนาเครื่องกรองน้ำออกมาวางจำหน่ายทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่ หมวดพรีเมี่ยม ซีรี่ย์ KYK, หมวดระบบกรองแบบ Nano Alkaline และหมวดระบบกรองแบบ RO Alkaline ตามรูปแบบการใช้งาน

นอกจากคุณภาพเครื่องกรองน้ำที่ดีเยี่ยมแล้ว ทางเราให้ความสำคัญกับการให้บริการแบบ On Site Service เมื่อเครื่องกรองมีปัญหา คุณจึงไม่ต้องยกเครื่องมาที่ศูนย์บริการด้วยตัวเอง เรามีทีมงานพร้อมดูแลคุณถึงบ้าน (ในจังหวัดที่มีศูนย์บริการ) บางยี่ห้อเปลี่ยนโฉมทุก ๆ 5 ปี ทำให้ต้องยกเลิกการผลิตไส้กรองลงไป ภาระจึงตกอยู่กับลูกค้าที่ต้องซื้อเครื่องกรองใหม่ แม้จะเปลี่ยนบอดี้หรือดีไซน์ก็ตาม แต่ทางเรายังคงใช้ขนาดไส้กรองเท่าเดิม จึงหมดปัญหาต้องซื้อเครื่องใหม่ นอกจากนี้ตัวเครื่องของเรายังมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำดื่มในระยะยาวอีกด้วย

บทความที่น่าสนใจ

Shopping Cart