เครื่องกรองน้ำ Nano เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องกรองน้ำไว้ใช้ภายในบ้าน ด้วยราคาที่ไม่แพงมากจึงเป็นที่สนใจสำหรับใครหลายคน ว่าแต่เครื่องกรองน้ำประเภทนี้กรองน้ำได้สะอาดจริงไหม แตกต่างจากเครื่องกรองน้ำ RO อย่างไร เหมาะกับแหล่งน้ำดิบแบบใด ราคาประมาณเท่าไหร่ มาอ่านกันเลยค่ะ
เครื่องกรองน้ำ Nano คืออะไร
เป็นระบบกรองน้ำที่ใช้เทคโนโลยีการกรองแบบนาโน หรือ NF (Nanofiltration) ในการกรองอนุภาคและสารละลายในน้ำที่มีขนาดเล็กมาก โดยรูกรองในเยื่อกรองนาโนจะมีขนาดประมาณ 0.001 ไมครอน จึงสามารถกรองแบคทีเรีย ไวรัส สารอินทรีย์ และสารเคมีบางชนิดที่ปนเปื้อนในน้ำได้โดยที่ยังคงแร่ธาตุในน้ำเอาไว้ ได้แก่ โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) และแมกนีเซียม (Mg) อีกทั้งช่วยลดความกระด้างในน้ำที่มีมากเกินไปจนแหล่งน้ำดิบได้อีกด้วย และที่สำคัญเครื่องกรองน้ำระบบ Nano ในบางรุ่นไม่จำเป็นต้องใช้ปั๊มน้ำหรือไฟฟ้าในการทำงาน จึงช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องกรองน้ำระบบอื่น
เครื่องกรองน้ำ Nano ทำงานอย่างไร
- น้ำจะถูกส่งผ่านไส้กรองหยาบหรือไส้กรองตะกอน (Sediment Filter) เพื่อกรองสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนมากับน้ำ
- จากนั้นน้ำจะถูกส่งผ่านยังไส้กรองคาร์บอน (Carbon Filter) เพื่อกำจัดคลอรีน กลิ่น และสารเคมีบางชนิดที่ละลายน้ำ
- น้ำจะถูกส่งผ่านเยื่อกรองนาโน (Nanofiltration Membrane) ขนาดเล็กประมาณ 0.001 ไมครอน เพื่อกรองแบคทีเรียและไวรัสที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.001 ไมครอน, สารปนเปื้อนบางชนิด เช่น โลหะหนัก (บางส่วน), สารเคมี, และสารอินทรีย์ รวมถึงลดปริมาณของแคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ำให้อยู่ในปริมาณที่พอดี ช่วยลดความกระด้างในน้ำความกระด้างในน้ำ
- เมื่อได้น้ำที่สะอาดแล้ว ในเครื่องกรองบางรุ่นจะมีไส้กรองสำหรับเติมแร่ธาตุสำคัญลงไปในน้ำเพื่อให้น้ำดื่มที่ได้มีคุณภาพดี พร้อมดื่ม
- น้ำจะผ่านไส้กรองสุดท้าย (Post-carbon Filter) เพื่อกรองน้ำให้สะอาดและกำจัดสิ่งตกค้างที่อาจเหลืออยู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนถูกจ่ายไปก๊อกน้ำ
เครื่องกรองน้ำ Nano เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการน้ำดื่มสะอาด
- ผู้ที่ต้องการดื่มน้ำที่มีแร่ธาตุ
- ผู้ที่ใช้แหล่งน้ำดิบเป็นน้ำประปา
- ผู้ที่ต้องการใช้เครื่องกรองน้ำคุณภาพมาตรฐาน แต่มีราคาเริ่มต้นไม่สูงมาก
เครื่องกรองน้ำ Nano ราคาเท่าไหร่
สำหรับราคาเริ่มต้นของเครื่องกรองน้ำ Nano ขนาดเล็ก จะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท – 8,000 บาท แต่หากเป็นเครื่องกรองน้ำ Nano ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายจะมีราคาอยู่ที่ 10,000 – 20,000 บาท
เครื่องกรองน้ำระบบ Nano กับ RO ต่างกันอย่างไร
1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการกรอง
เครื่องกรองน้ำ RO ใช้ไส้กรองเมมเบรนที่มีความละเอียดของไส้กรองมากถึง 0.0001 ไมครอน ซึ่งจะช่วยกรองสิ่งปนเปื้อนได้โดยไม่มีสิ่งไหนเล็ดลอดเข้ามาสู่ระบบเลย เนื่องจากสิ่งปนเปื้อนทุกประเภทมีขนาดไมครอนที่ใหญ่กว่าไส้กรองนั่นเอง แตกต่างจากเครื่องกรอง Nano ที่มีขั้นตอนการกรองไม่ซับซ้อนเท่าและยังคงแร่ธาตุจากแหล่งน้ำเอาไว้ด้วย
2. ประสิทธิภาพในการกรอง
เนื่องจากเครื่องกรองน้ำ RO ใช้ไส้กรองเมมเบรนในการกรองสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน จึงมีประสิทธิภาพในการกรองที่สูงกว่า แต่หากเป็นเครื่องกรองน้ำ Nano จะกรองได้เพียงแบคทีเรีย ไวรัส และสารเคมีได้เพียงบางชนิดเท่านั้น ไม่สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กหรือมีความซับซ้อนมากได้ค่ะ
3. การบำรุงรักษา
ไส้กรอง Nano มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าและมีอุปกรณ์ไม่ซับซ้อน การบำรุงรักษาจึงไม่ยุ่งยากเท่าเครื่องกรอง RO ค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำดิบที่คุณใช้ด้วยนะคะ หากคุณใช้แหล่งน้ำดิบเป็นน้ำกร่อยหรือน้ำบาดาล ต่อให้คุณใช้เครื่องกรอง RO คุณภาพสูง ก็อาจต้องบำรุงรักษาไวกว่าระยะเวลาที่ควรเปลี่ยน
4. ราคา
เครื่องกรองน้ำ RO มีราคาสูงกว่าเนื่องจากใช้เทคโนโลยีในการกรองที่ละเอียดซับซ้อนมากกว่า เหมาะกับแหล่งน้ำดิบทุกประเภท โดยเฉพาะแหล่งน้ำดิบที่มีการปนเปื้อนหนักหรือมีความเค็มสูง เช่น น้ำกร่อย น้ำบาดาล และเครื่องกรองน้ำ RO เองก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายกว่าอีกด้วย โดยราคาเริ่มต้นของเครื่องกรองน้ำ Nano จะอยู่ที่ 2,000 บาท – 8,000 บาท ส่วนเครื่องกรองน้ำ RO จะอยู่ที่ 4,000 บาท – 12,000 บาท
เครื่องกรองน้ำ Nano ดีไหม
แม้ว่าเครื่องกรองน้ำ Nano จะคงแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเอาไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแร่ธาตุในน้ำนั้นสามารถหาได้จากอาหารที่เราทานเข้าไป แต่สิ่งที่เราอยากให้เน้นจริงๆ จะเป็นเรื่องของคุณภาพในการกรองมากกว่าค่ะ แม้ว่าเครื่องกรองน้ำ Nano จะกรองน้ำได้ แต่ก็กรองได้เพียงน้ำประปาเท่านั้น หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แหล่งน้ำไม่สะอาดพอแล้วใช้เครื่องกรองน้ำ Nano ก็อาจได้รับสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา ทางที่ดีควรตรวจเช็กแหล่งน้ำดิบก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้หากคุณกำลังตัดสินใจจะซื้อเครื่องกรองน้ำใหม่ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลของแต่ละแบรนด์ด้วยนะคะว่าแบรนด์ไหนมีบริการซ่อมฟรีหลังการขายบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้ดื่มน้ำจากเครื่องกรองคุณภาพสูงไปนานๆ ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ ที่อาจต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลา แถมยังเสียสุขภาพจิตอีกด้วยค่ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: เครื่องกรองน้ำราคาสูงดีจริงมั้ย? ราคาแบบไหนถึงเหมาะสำหรับคุณ
บทความที่น่าสนใจ
- เครื่องกรองน้ำ UV คืออะไร มีข้อดีข้อเสีย คุ้มกว่า RO หรือไหม
- เครื่องกรองน้ำบาดาล ใช้ในบ้าน คุ้มไหม ระบบ RO ดีกว่ายังไง
- ติดตั้งเครื่องกรองน้ำเอง ดีไหม ติดตั้งอย่างไรไม่ให้มีปัญหาตามมา
เครื่องกรองน้ำ RO ทำไมต้อง Live Healthy
สำหรับใครที่ต้องการดื่มน้ำสะอาดและกำลังมองหาเครื่องกรองน้ำดื่มที่มีระบบกรองน้ำดื่มคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ