ซื้อน้ำด่าง

5 วิธีเลือกซื้อน้ำด่างดื่มด้วยตัวคุณเอง

หากคุณเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการเลือกดื่มน้ำด่างและกำลังมองหาแหล่งซื้อขายน้ำด่างคุณภาพดีอยู่ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 วิธีเลือกซื้อน้ำด่างดื่มด้วยตัวคุณเอง บอกเลยว่านอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยให้คุณได้ดื่มน้ำด่างจากแหล่งที่มีคุณภาพอีกด้วย ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ

5 วิธีเลือกซื้อน้ำด่างดื่มด้วยตัวคุณเอง

1. เลือกจากความสะดวก

น้ำด่างเพื่อสุขภาพ

ในปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกในการดื่มน้ำด่างมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นจะต้องซื้อเครื่องกรองน้ำมาดื่มเพียงอย่างเดียว คุณสามารถหาซื้อน้ำด่างดื่มได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป ซึ่งทำให้หลายคนคิดว่าการซื้อน้ำแพ็คจะช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าการซื้อแบบขวด เนื่องจากน้ำแพ็คหลายเจ้ามีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม แต่อย่าลืมนะคะว่าในกรณีที่ซื้อเป็นแพ็ค หากคุณไม่สะดวกไปรับด้วยตัวเอง จะต้องมีค่าขนส่งเพิ่มเติม เท่ากับว่าคุณต้องจ่ายเพิ่มขึ้นด้วย หรืออาจจ่ายมากกว่าตอนที่ซื้อน้ำขวดอีกด้วย แต่หากคุณมีเครื่องกรองติดบ้านไว้สักเครื่อง รับรองว่าช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ดีทีเดียว เพียงแค่กดน้ำจากเครื่องแป๊บเดียวก็ได้ดื่มน้ำที่มีคุณภาพ แถมยังไม่ต้องเสี่ยงกับเชื้อโรคจากการซื้อน้ำข้างนอกบ้านอีกด้วยนะคะ

2. เลือกจากระบบกรอง

RO Alkaline-เครื่องกรองน้ำ-ro-อัลคาไลน์-Classic-White-Hot-Cold-Table
RO Alkaline-เครื่องกรองน้ำ-ro-อัลคาไลน์-Classic-White-Hot-Cold-Table

หลายคนอาจคิดว่าเครื่องกรองน้ำแบบไหนก็เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องกรองน้ำมีระบบกรองที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่

  • ระบบ Ultraviolet (UV) ทำงานโดยใช้แสง UV ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ข้อดีของระบบนี้คือยังคงแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเอาไว้ เหมาะกับการใช้งานทั้งภายในบ้านและสำนักงาน นอกจากนี้ยังทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองไม่ยุ่งยาก แถมยังรองรับแหล่งน้ำดิบประเภทน้ำประปา ซึ่งใช้ทั่วไปในกรุงเทพฯ ได้อีกด้วย
  • ระบบ Ultra Filtration (UF) ทำงานโดยใช้เนื้อเยื่อเมมเบรนขนาด 0.01 ไมครอน กรองสิ่งปนเปื้อน, ความขุ่น, แบคทีเรีย, สารแขวนลอย และสิ่งสกปรกอื่นภายในแหล่งน้ำดิบ เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป โดยทั่วไปนิยมใช้สำหรับเตรียมน้ำให้ระบบ RO เพื่อยืดอายุการใช้งานของไส้กรองเมมเบรน RO และใช้บำบัดน้ำเสียเพื่อนำมาใช้ซ้ำ ข้อดีของระบบนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับกำจัดตะกอนและไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยอีกด้วยค่ะ
  • ระบบ Reverse Osmosis (RO) ทำงานโดยใช้เนื้อเยื่อเมมเบรน (Membrane) เป็นระบบเครื่องกรองน้ำที่ทำงานด้วยหลักการออสโมซิส (Osmosis) เป็นกระบวนการแพร่โมเลกุลของเหลวอย่างน้ำเข้าไปยังเยื่อเมมเบรน (Membrane) ที่ทำจากใยสังเคราะห์เซลลูโลส ซึ่งมีความละเอียดมากถึง 0.0001 ไมครอน ดังนั้นสารปนเปื้อนจากแหล่งน้ำที่มีโมเลกุลมากกว่าจึงไม่สามารถเล็ดลอดผ่านเยื่อเมมเบรน มีเพียงน้ำบริสุทธิ์ที่มีโมเลกุลเพียง 0.00089 ไมครอน เท่านั้นที่สามารถไหลผ่านเข้าไปได้ ระบบ RO ทำงานโดยใช้แรงดันไฮดรอลิกดันน้ำเข้าสู่ระบบ สิ่งปนเปื้อนที่ไหลปนมากับน้ำจากแหล่งน้ำดิบจึงถูกกรองผ่านไส้กรอง จากนั้นจึงใช้ปั๊มแรงดันสูงเพื่อแยกน้ำที่ผ่านการกรองออก เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการคัดแยกน้ำและกรองอีกรอบด้วยเยื่อเมมเบรน จนได้น้ำบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว ส่วนน้ำที่มีสารปนเปื้อนจะถูกกำจัดออกจากเครื่องกรองน้ำ เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนตกค้างในตัวเครื่อง

เหตุผลง่าย ๆ ที่ใครหลายคนเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ RO

3. เลือกจากราคา

ซื้อน้ำด่าง

หลายคนอาจคิดว่าการซื้อเครื่องกรองสำหรับกรองน้ำด่างนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องกรองราคาแพงมากก็ได้ เน้นถูกไว้ก่อน แม้จะประหยัดในช่วงแรก แต่คุณอาจลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาจากการที่เครื่องใช้งานได้ไม่นานก็พัง อันเนื่องมาจากอุปกรณ์สำหรับติดตั้งเครื่องกรองน้ำราคาถูก ใช้วัสดุคุณภาพต่ำ หรือต่อให้คุณเลือกซื้อเครื่องกรองคุณภาพดีขึ้นมาหน่อย แต่หากไม่ศึกษาข้อมูลให้ดี อาจมีเหตุให้ต้องซื้อเครื่องใหม่ได้เช่นกัน อย่าลืมนะคะว่าเครื่องกรองน้ำบางรุ่นมีอุปกรณ์เฉพาะที่ไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ในรุ่นอื่น ดังนั้นหากแบรนด์เครื่องกรองน้ำเลิกผลิตอุปกรณ์ของรุ่นนั้นไปแล้วก็อาจต้องควักเงินซื้อเครื่องใหม่อยู่ดี ไหน ๆ ก็จะซื้อเครื่องกรองน้ำทั้งที ทางเราแนะนำให้เลือกราคาสูงขึ้นมาหน่อยและมีอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้ในทุกรุ่นเพื่อรองรับปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ

จากผลงานวิจัยโครงการ Chula Zero Waste ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าคน 1 คนดื่มน้ำ 2 ขวดต่อวัน เท่ากับ 730 ขวด/ปี (1,215 ลิตร) ใน 1 ปี คุณต้องจ่ายเงินค่าน้ำดื่มประมาณ 8,760 บาท รวมถึงน้ำที่ใช้ในการประกอบอาหารและอาบน้ำด้วย หากคุณใช้น้ำส่วนนี้วันละ 5 ลิตร เป็นเวลา 1 ปี = น้ำประมาณ 1,830 ขวด (1,825 ลิตร) เท่ากับว่า 1 ปี คุณจะต้องจ่ายเงิน 21,960 บาท แล้วถ้าคุณอยู่กันเป็นครอบครัว มีสมาชิกในบ้านประมาณ 3 – 4 คน คุณจะต้องจ่ายค่าน้ำดื่มประมาณ 35,000+21,960 = 56,960 บาท/ปี

แต่หากคุณซื้อเครื่องกรองอย่างดีสักเครื่อง ราคาประมาณ 24,900 บาท รวมราคาไส้กรองที่ต้องเปลี่ยนทุกปี ประมาณ 3,500-4,000 บาท และค่าน้ำค่าไฟประมาณ 1,300-1,400 บาท/ปี เท่ากับว่าปีแรกเราจะเสียค่าน้ำประมาณ 30,300 บาท แต่ปีต่อมาคุณไม่ต้องจ่ายค่าเครื่องกรองแล้ว เหลือแค่ราคาที่ต้องจ่ายในกรณีที่อุปกรณ์มีปัญหาเพียงอย่างเดียว แล้วถ้าหากเครื่องกรองแบรนด์ไหนมีบริการเปลี่ยนไส้กรองฟรีเป็นเวลา 1 ปีด้วยแล้วล่ะก็ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในปีแรกไปได้มาก อาจเหลือเพียงประมาณ 26,300 บาท แถมยังได้น้ำใช้ทั้งครอบครัวด้วยนะคะ

4. เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งาน

ซื้อน้ำด่าง

นอกจากการดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันแล้ว การเลือกดื่มน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากน้ำดื่มทั่วไปอาจมีสารปนเปื้อนที่มาจากแหล่งน้ำเนื่องจากไม่ได้ผ่านการกรองมาก่อน แตกต่างจากน้ำอัลคาไลน์ หรือน้ำด่างที่มีค่าความเป็นด่างและมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการผสมอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม, แมกนีเซียม, โซเดียม และโพแทสเซียม นอกจากนี้น้ำอัลคาไลน์ยังมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ง่ายกว่าน้ำดื่มทั่วไป อีกทั้งยังมีความเป็นกรด-ด่างที่สมดุลต่อร่างกาย ช่วยป้องกันร่างกายจากการทำลายของกรดส่วนเกินที่เป็นต้นเหตุของโรคร้ายต่าง ๆ ชะล้างของเสียลงลึกถึงระดับเซลล์ และช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ

5. เลือกจากชื่อเสียงของแบรนด์

นอกจากตัวเครื่องกรองน้ำเองแล้ว การดูชื่อแบรนด์ของเครื่องกรองจะช่วยให้เราตัดสินใจในการซื้อเครื่องกรองได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องกรองแบรนด์ดังมักมีรีวิวและการันตียอดขายเป็นเวลานาน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทุกเวลาที่คุณสะดวก และที่สำคัญไม่มีการย้อมแมวขายแน่นอน เพราะแบรนด์ดังหลาย ๆ แบรนด์ต้องการรักษามาตรฐานและรักษาลูกค้าไปอีกนาน ๆ แต่ทั้งนี้ควรตรวจเช็กช่องทางการติดต่อกับทางแบรนด์ให้ดีนะคะ เนื่องจากปัจจุบันมีมิจฉาชีพจำนวนมากแอบอ้างชื่อแบรนด์เครื่องกรองน้ำดัง ๆ ไปหลอกผู้ที่สนใจซื้อเครื่องกรองน้ำหน้าใหม่จำนวนมากค่ะ

ทำไมต้องเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำด่างจาก Live healthy

ทางเรามีเครื่องกรองน้ำให้คุณเลือกซื้อมากมายตามรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่ หมวดพรีเมี่ยม ซีรี่ย์ KYK, หมวดระบบกรองแบบ Nano Alkaline และหมวดระบบกรองแบบ RO Alkaline เราเป็นบริษัทจัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำด่างมานานถึง 13 ปี จึงเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าผู้ใช้มากมาย ทั้งสถานพยาบาล, คลินิก, หน่วยงานและประชาชนทั่วไปที่หันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการดื่มน้ำสะอาดคุณภาพดี ทำให้เรามียอดขายอันดับ 1 ในด้านน้ำอัลคาไลน์ในประเทศไทย

นอกจากคุณภาพเครื่องกรองน้ำที่ดีเยี่ยม ทางเรายังมีบริการแบบ On Site Service คุณจึงไม่ต้องยกเครื่องมาที่ศูนย์ด้วยตัวเองหากเครื่องมีปัญหา เพราะเรามีทีมงานพร้อมดูแลคุณถึงบ้าน (ตามจังหวัดที่มีศูนย์บริการ) อีกทั้งทางเรายังคงใช้ขนาดไส้กรองขนาดเดิม แม้จะเปลี่ยนบอดี้หรือดีไซน์ก็ตาม หมดปัญหาที่ต้องซื้อเครื่องกรองน้ำใหม่ให้เหมาะสมกับไส้กรอง นอกจากนี้ตัวเครื่องของเราสามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี จึงเหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพและผู้ที่ต้องการประหยัดค่าน้ำดื่มในระยะยาวอีกด้วย

ซื้อเครื่องกรองน้ำ RO
Nano Alkaline – Classic Black Hot & Cold #Table

สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจซื้อเครื่องกรองน้ำ RO คุณภาพดีสักเครื่อง การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

Shopping Cart