8 เวลาที่ควรดื่มน้ำมากที่สุด

8 เวลาที่ควรดื่มน้ำมากที่สุด มีช่วงไหนบ้าง มาอ่านกัน

การดื่มน้ำที่ดีจะต้องดื่มตามช่วงเวลา เพราะหากดื่มน้ำน้อยหรือมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาวได้ด้วยเช่นกัน วันนี้ Live Healthy จะมาแนะนำ 8 เวลาที่ควรดื่มน้ำมากที่สุด ว่าแต่มีช่วงไหนบ้าง มาอ่านกันเลยค่ะ

8 เวลาที่ควรดื่มน้ำมากที่สุดมีอะไรบ้าง

1. ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น 1 แก้ว ทันทีที่ตื่นนอน

หลังจากตื่นนอนควรดื่มน้ำ 1 แก้วทันทีเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปจากภาวะขาดน้ำตลอดคืน เนื่องจากสมองมีส่วนประกอบของน้ำมากถึง 75% หากสมองได้รับน้ำอย่างเพียงพอแล้วก็จะทำให้สมองกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้พร้อมรับวันใหม่ ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า บรรเทาอาการปวดหัวจากภาวะขาดน้ำตลอดทั้งคืน

2. ดื่มน้ำ 1 แก้ว เวลา 08.00 น.

ควรดื่มก่อนทานอาหาร 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบย่อยอาหารถูกรบกวนด้วยน้ำ จนเกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังทานอาหาร แต่สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยด้วยการทำ IF (Intermittent Fasting) แนะนำให้งดมื้อเช้าแล้วรวบยอดไปทานมื้อกลางวันแทนได้เลย เนื่องจากมีผลงานวิจัยออกมาแล้วว่า ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin Hormone) หรือฮอร์โมนความหิวจะหลั่งออกมาไม่มาก หากเรารับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ แต่หากร่างกายได้พักจากการรับอาหารบ้าง จะช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการลดน้ำหนักด้วย

3. ดื่มน้ำ 1 แก้ว เวลา 09.00 – 10.00 น.

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ เมื่อดื่มน้ำเข้าไปจะยิ่งช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงาน นอกจากจะช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกายแล้วยังช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นให้แก่ร่างกายด้วยค่ะ

4. ดื่มน้ำ 2 แก้วช่วงบ่าย (หลังทานข้าว) เวลา 13.00 – 16.00 น.

ควรดื่มน้ำ 2 แก้ว แต่เน้นจิบเป็นระยะ ๆ ซึ่งจะช่วยดับกระหายและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยเฉพาะใครก็ตามที่ทำงานอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศอับชื้นตลอดเวลา เป็นผลให้ผิวแห้งเสียง่าย ทั้งนี้ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะนอกจากจะดับกระหายได้แปบเดียวแล้ว ยังปวดท้องปัสสาวะง่าย ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ อีกด้วยค่ะ

5. ดื่มน้ำ 1 แก้วช่วงเย็น (ก่อนทานข้าว) โดยดื่ม 1 แก้ว เวลา 17.00 – 18.00 น.

การดื่มน้ำ 1 แก้วช่วงเย็นก่อนทานอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันไม่ให้ระบบย่อยอาหารถูกรบกวนด้วยน้ำ จนเกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อก่อนทานอาหาร

6. ดื่มน้ำ 1 แก้ว เวลา 19.00 – 21.00 น.

เน้นจิบเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ระบบเลือดและระบบลำไส้ทำงานได้เต็มที่ ไม่หนักเกินไปเหมือนช่วงเวลาอื่น

7. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนนอน (ไม่เกินเที่ยงคืน)

เพื่อชะล้างสิ่งตกค้างภายในลำไส้ออกไป แนะนำว่าไม่ควรดื่มก่อนเวลานอนทันที เพราะอาจทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึก ส่งผลให้นอนหลับไม่เต็มอิ่ม เมื่อตื่นมาอาจรู้สึกง่วงซึมและเหนื่อยง่ายตลอดทั้งวัน

8. ดื่มน้ำเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ

แม้ว่าจะดื่มตาม 8 เวลาที่ควรดื่มน้ำมากที่สุดแล้วก็ตาม แต่ใน 1 วัน แต่ละคนมีกิจกรรมแตกต่างกัน โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ จนทำให้เสียเหงื่อเยอะเกินไป ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำ ดังนั้นหากทำกิจกรรมเสี่ยงแล้วล่ะก็ คุณควรจิบน้ำเพียงเล็กน้อยระหว่างออกกำลังกายเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำตลอดการออกกำลังกาย แต่ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำหมดแก้วภายในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้จุกเสียดขณะออกกำลังกายได้ การดื่มน้ำระหว่างออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้ประสิทธิภาพของการออกกำลังกายดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเวียนศีรษะ และหน้ามืดระหว่างออกกำลังกายได้อีกด้วย

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดื่มน้ำ

1. ดื่มน้ำวันละ 4 ลิตรเป็นอะไรไหม

การดื่มน้ำในปริมาณที่มากกว่าที่ร่างกายต้องการ อาจก่อให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication) ที่เกิดจากน้ำที่มากเกินไปเข้าไปเจือจางและลดความเข้มข้นของโซเดียมในร่างกาย เมื่อโซเดียมเจือจางลง ส่งผลให้น้ำภายนอกเซลล์ซึมเข้าไปภายในเซลล์จนเกิดอาการเซลล์บวมน้ำและเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) สังเกตได้จากอาการปวดศีรษะ, คลื่นไส้อาเจียน, ชักกระตุกจากสมองบวมน้ำ, ปอดบวม หากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

2. ดื่มน้ำน้อยมีผลเสียอย่างไร

การดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ อาจก่อให้เกิดภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ที่เกิดจากร่างกายสูญเสียน้ำในหลอดเลือดและเซลล์มากกว่าน้ำที่ควรได้รับ ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงและดึงน้ำจากเซลล์ออกมารักษาระดับน้ำตาลให้สมดุล ส่งผลให้เนื้อเยื่อและอวัยวะภายในร่างกายทำงานผิดปกติ สังเกตได้จากความรู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ, ปากแห้งตาแห้ง, ปัสสาวะน้อย, วิงเวียนศีรษะ มึนงง, มีไข้, หัวใจเต้นเร็วแรง, หายใจหอบถี่ บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นหมดสติ

3. ไม่ควรดื่มน้ำตอนไหน

สำหรับช่วงเวลาที่ไม่ควรดื่มน้ำมากที่สุดคือช่วงก่อนรับประทานอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เนื่องจากน้ำจะเข้าไปรบกวนน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้ลดความอยากทานอาหาร แต่หากรู้สึกกระหายน้ำมากจริง ๆ แนะนำให้ดื่มน้ำเพียงครึ่งแก้วก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาทีค่ะ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงช่วงเวลาก่อนออกกำลังกาย แม้ว่าการดื่มน้ำจะช่วยกระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ก็ตาม แต่หากดื่มน้ำแล้วออกกำลังกายทันทีอาจจุกเสียดแน่นท้องได้ด้วยเช่นกัน แนะนำให้ดื่มแบบจิบก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีจะดีกว่าค่ะ และที่สำคัญที่สุดห้ามดื่มน้ำแล้วเข้านอนทันทีค่ะ ถึงต่อให้ร่างกายจะขาดน้ำระหว่างการนอนหลับพักผ่อนไปนานแค่ไหนก็ตาม แต่น้ำที่ดื่มก่อนนอนนั้นไม่ได้ช่วยแทนที่น้ำที่ร่างกายขาดไป แถมยังทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะกลางดึกบ่อย ๆ ส่งผลให้เต็มมาด้วยความรู้สึกไม่สดชื่นอีกด้วยค่ะ

4. ดื่มน้ำอุ่นทุกวันดีไหม

หากเป็นไปได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะน้ำอุ่นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ต่อมย่อมอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ, รักษาความเป็นกลางของน้ำย่อย, กำจัดกรดเกินในกระเพาะอาหาร, รักษาความเป็นกลางของน้ำย่อย, ช่วยควบคุมการเคลื่อนตัวของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายเป็นประจำ ป้องกันท้องผูก, บรรเทาอาการระคายเคืองหรือติดเชื้อในลำคอ, ช่วยทำความสะอาดโพรงจมูกให้โล่ง หายใจสะดวกขึ้น, เพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารให้แก่ร่างกาย ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น กำจัดน้ำหนักส่วนเกินออกจากร่างกาย อีกทั้งช่วยขัดล้างสารพิษซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาวอีกด้วยค่ะ

5. ดื่มน้ำด่างแทนน้ำเปล่าได้ไหม

ได้แน่นอนค่ะ เพราะน้ำด่างเป็นน้ำที่มีค่า pH อยู่ที่ประมาณ 8 – 9 ถือว่าเป็นน้ำที่มีค่าความเป็นด่างในระดับที่สามารถดื่มเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ แถมยังช่วยลดปัญหาสุขภาพได้ดีอีกด้วย เพราะหากดื่มเข้าสู่ร่างกายแล้วจะออกฤทธิ์ปรับความเป็นกรด-ด่างในร่างกายให้สมดุล อีกทั้งน้ำด่างประกอบด้วยแร่ธาตุสำคัญอย่างแคลเซียม (Calcium) ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง, โซเดียม (Sodium) ช่วยควบคุมระบบความดันเลือดให้เป็นปกติ, แมกนีเซียม (Magnesium) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเอ็นไซม์ในกระบวนการเผาผลาญ และโพแทสเซียม (Potassium) ช่วยปรับสมดุลของน้ำในร่างกาย ดังนั้นจึงดื่มแทนน้ำสะอาดได้เลยค่ะ

เครื่องกรองน้ำด่าง ยี่ห้อไหนดี

แม้ว่าคุณจะดื่มน้ำตาม 8 เวลาที่ควรดื่มน้ำมากที่สุดแล้วก็ตาม แต่หากคุณต้องการดื่มน้ำให้ตรงตามเวลาและกำลังมองหาเครื่องกรองน้ำดื่มที่มีระบบกรองน้ำดื่มคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

Shopping Cart