แม้ว่าการดื่มน้ำมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อภาวะน้ำเป็นพิษ แต่การดื่มน้ำน้อยเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ว่าแต่มีข้อเสียอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
ข้อเสียจากการดื่มน้ำน้อยเกินไป
1. เกิดภาวะขาดน้ำ
เป็นภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำภายในหลอดเลือดและเซลล์มากกว่าน้ำที่ได้รับ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนต้องดึงน้ำจากเซลล์ออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลให้อยู่ในภาวะสมดุล ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะภายในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้รู้สึกกระหายน้ำ, ตาและปากแห้ง, ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ, รู้สึกมึนงง ปวดศีรษะ, กระหายน้ำขั้นรุนแรง, มีไข้ หัวใจเต้นเร็วและแรง หายใจหอบถี่ บางรายอาจรุนแรงจนถึงขั้นหมดสติได้
2. ปวดข้อและกระดูกอ่อน
เนื่องจากข้อต่อและหมอนรองกระดูกมีส่วนประกอบของน้ำมากถึง 80% หากปล่อยให้ข้อต่อและหมอนรองกระดูกแห้งเป็นเวลานาน อาจทำให้ข้อต่อดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีและเกิดอาการบาดเจ็บหรืออักเสบง่ายกว่าปกติเมื่อต้องออกแรงทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงออกกำลังกาย
3. กระเพาะปัสสาวะอักเสบและโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
เมื่อร่างกายมีน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ จะทำให้ปัสสาวะมีสีเข้มและมีกลิ่นฉุน หากยังดื่มน้ำน้อยกว่าความต้องการอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้อาจเสี่ยงต่อโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบที่ทำให้ปัสสาวะไหลออกมายาก หรือไหลออกมาเพียงไม่กี่หยดนั่นเอง
4. โรคนิ่ว
เกิดจากแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ สะสมจนกลายเป็นก้อนแข็งบริเวณกรวยไตและทางเดินปัสสาวะ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำที่น้อยเกินไปส่งผลให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงจนตกตะกอนกลายเป็นนิ่ว ส่งผลให้รู้สึกปวดเอวข้างที่มีก้อนนิ่ว, ปวดช่องท้องช่วงล่างหรือปวดหลัง, คลื่นไส้, ปัสสาวะขุ่นแดง รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ, ปัสสาวะบ่อยกว่าเดิม หรืออาจปวดบิดรุนแรงหากก้อนนิ่วตกลงมายังท่อไต
5. สมองเสื่อม
เมื่อร่างกายขาดน้ำ จะทำให้ปริมาณน้ำในร่างกายมีไม่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย หากเลือดมีความหนืดมากขึ้นจะทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อม รู้สึกไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า คิดอะไรช้ากว่าที่เคย
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
เมื่อมีน้ำไม่เพียงพอในร่างกาย จะทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำสร้างเป็นประจำเดือนได้ ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนมีสีเข้มเกินไป ประจำเดือนออกมาเป็นลิ่มเลือด หรืออาจรู้สึกปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ
วิธีสังเกตตัวเองว่าดื่มน้ำน้อยเกินไป
- รู้สึกกระหายน้ำง่าย
- วิงเวียนศีรษะ ปวดหัวง่าย
- เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย
- หายใจหอบถี่ ชีพจรเต้นเร็ว
- ผิวแห้ง ตาแห้ง
- ผิวพรรณหย่อนคล้อย ดูหมองคล้ำ
- ปัสสาวะมีสีเข้มทุกครั้งและมีกลิ่นฉุน
- ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้ง/วัน
- ปัสสาวะน้อยประมาณ 4-6 ชั่วโมง/1 ครั้ง
- ความดันโลหิตต่ำ บางรายอาจเกิดอาการชัก
แล้วเราควรดื่มน้ำวันละเท่าไหร่ดี
- ผู้ที่มีอายุ 1-3 ปี ควรดื่ม 3-4 แก้วต่อวัน (1,000 มล.)
- ผู้ที่มีอายุ 4-8 ปี ควรดื่ม 5 แก้วต่อวัน (1,200 มล.)
- ผู้ที่มีอายุ 9-13 ปี ควรดื่ม 7-8 แก้วต่อวัน (1,600-1,900 มล.)
- ผู้ที่มีอายุ 14-18 ปี ควรดื่ม 8-11 แก้วต่อวัน (1,900-2,600 มล.)
- ผู้หญิงที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ควรดื่ม 9 แก้วต่อวัน (2,100 มล.)
- ผู้ชายที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรดื่ม 13 แก้วต่อวัน (3,000 มล.)
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจน้ำด่างเพื่อสุขภาพจากเครื่องกรองน้ำด่างคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ