รวมวิธีดื่มน้ำอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพของคุณ
น้ำสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน แต่ทว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังคงดื่มน้ำกันแบบผิด ๆ หรือละเลยการดื่มน้ำสะอาดเป็นจำนวนมาก หลายคนหันไม่ดื่มน้ำหวานอย่างชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือหลายคนเองก็ดื่มแอลกอฮอล์เป็นชีวิติจิตใจ จนเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาในระยะยาว วันนี้เรา Live Healthy จะมาแนะนำวิธีดื่มน้ำอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพของคุณกันค่ะ
วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
1. ดื่มตามปริมาณที่ร่างกายต้อง
สำหรับประโยคที่ใครหลายคนคุ้นหูอย่าง การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ดีต่อร่างกายนั้นอาจใช้ไม่ได้กับทุกคนเนื่องจากร่างกายของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน สำหรับปริมาณน้ำที่ควรได้รับในแต่ละวันนั้นสามารถใช้สูตรคำนวณได้โดยนำน้ำหนัก (กิโลกรัม) มาคูณด้วย 2.2 มาคูณด้วย 30 แล้วหารด้วย 2 ก็จะได้ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน แต่ทั้งนี้คุณอาจดื่มเกินจากสูตรคำนวณได้เล็กน้อย หากวันนั้นคุณออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะกว่าปกติ
ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนัก 60 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 1,980 มิลลิลิตร หรือ 1.9 ลิตรโดยประมาณ
ในกรณีที่คุณต้องออกกำลังกาย ทางเราขอแนะนำหลักการดื่มทั้งก่อน, ระหว่างออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกาย ด้วยการดื่มน้ำตามหลักต่อไปนี้ค่ะ
1. ดื่มน้ำช่วงเวลาออกกำลังกาย
ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจว่าควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตรในช่วงที่ต้องออกกำลังกาย ทางเราขอแนะนำหลักการดื่มทั้งก่อน, ระหว่างออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกายดังต่อไปนี้
- ดื่มประมาณ 500 – 600 มิลลิลิตร ก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมง
- ดื่มประมาณ 200 – 300 มิลลิลิตร ก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที
- ดื่มระหว่างออกกำลังกายประมาณ 200 – 300 มิลลิลิตร ทุก ๆ 10 – 20 นาที
- ดื่มน้ำหลังจากออกกำลังกายภายใน 30 นาที หลังจากนี้แนะนำให้จิบไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ตกอยู่ในสภาวะขาดน้ำ
- ดื่มน้ำหลังจากออกกำลังกายปริมาณ 1 – 1.5 ลิตร/ต่อน้ำหนักตัวที่หายไป 1 กิโลกรัม
2. ดื่มให้ถูกเวลา
หลายคนอาจคิดว่าการดื่มน้ำจะดื่มเวลาไหนก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการดื่มน้ำจะต้องดื่มให้ตรงเวลาจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ โดยเวลาในการดื่มจะอิงจากปริมาณน้ำที่ต้องดื่มและต้องเป็นน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น ดังนี้
- ดื่ม 1 แก้วทันทีหลังตื่นนอน การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัว ส่งผลให้สมองปลอดโปร่งยิ่งขึ้น
- ดื่ม 1 แก้ว เวลา 08.00 น. หรือดื่มก่อนมื้อเช้า 1 ชั่วโมง เพราะการดื่มน้ำก่อนกินข้าวจะรบกวนระบบย่อยอาหารและทำให้ท้องอืด จึงกินข้าวได้น้อยลง
- ดื่ม 1 แก้ว เวลา 09.00 – 10.00 น. เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น อีกทั้งกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ขับถ่ายง่าย ลดปัญหาท้องผูก
- ดื่ม 2 แก้ว เวลา 13.00 – 16.00 น. หรือหลังมื้อกลางวัน ในช่วงนี้แนะนำให้จิบเป็นระยะ ๆ เพื่อดับกระหาย ทั้งนี้ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะจะทำให้เข้าห้องน้ำบ่อยและกระหายน้ำบ่อยขึ้น
- ดื่ม 2 แก้ว เวลา 17.00 – 19.00 น. หรือช่วงก่อนมื้อเย็น แนะนำให้ดื่มก่อนมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ท้องอืดจนกินข้าวน้อยลง
- ดื่ม 1 แก้ว เวลา 19.00 – 21.00 น. ในช่วงนี้แนะนำให้จิบเป็นระยะ ๆ เพื่อกระตุ้นให้ระบบเลือดและระบบลำไส้ทำงานได้ดี ทั้งนี้ไม่ควรดื่มมากเกินไปเนื่องจากร่างกายไม่ได้ทำงานหนักเหมือนช่วงอื่น
- ดื่ม 1 แก้วก่อนนอน และที่สำคัญไม่ควรเกินเที่ยงคืน เพื่อให้น้ำชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้มาตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ไม่ควรดื่มก่อนนอนทันที เพราะจะทำให้ลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก เป็นผลทำให้การนอนไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ง่วงซึมตลอดทั้งวัน
3. ดื่มน้ำสะอาดจริง ๆ
หลายคนอาจคิดว่าน้ำดื่มที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดนั้นสะอาดเหมือนกันหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วน้ำดื่มแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันนะครับ โดยเฉพาะกรรมวิธีในการกรอง สำหรับน้ำดื่มยี่ห้อดังที่วางจำหน่ายในท้องตลาดจะใช้ระบบกรอง RO ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดอยู่แล้ว แต่หากคุณเลือกดื่มน้ำยี่ห้อที่ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่มีแหล่งที่มาให้ตรวจสอบได้ อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มาจากแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย ไวรัส และสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นอกจากนี้หากคุณเป็นอีกคนที่เลือกใช้เครื่องกรองน้ำราคาถูกก็อาจเสี่ยงไม่แพ้กัน เนื่องจากเครื่องกรองราคาถูกมักใช้วัสดุราคาถูก ไม่ได้มาตรฐานในการผลิต จึงกรองสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำดิบได้ไม่หมดและอาจเกิดปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาวอีกด้วยค่ะ
สำหรับน้ำสะอาดที่ดีจะต้องเป็นน้ำที่มีสีใส ไม่มีสีขุ่น ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ หากมีบางสิ่งที่ตรงข้ามกับที่กล่าวมา แสดงว่าน้ำที่คุณกำลังจะดื่มนั้นเป็นน้ำไม่สะอาดค่ะ
3. ดื่มน้ำเมื่อรู้สึกอยากจริง ๆ
แม้ว่าอาการกระหายน้ำจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ แต่ยังมีอีกหลายคนที่อาจมีภาวะกระหายน้ำผิดปกติอันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับบาดเจ็บหรือเข้ารับการผ่าตัดบริเวณสมอง, ร่างกายขาดฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก (Antidiuretic Hormone), ความผิดปกติทางพันธุกรรม, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, เนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมอง จนทำให้คุณรู้สึกกระหายคอแห้งตลอดเวลา ขาดน้ำไม่ได้ เมื่อปล่อยไว้นานอาจทำให้คุณดื่มน้ำมากกว่าคนทั่วไป หากคุณสังเกตตัวเองแล้วพบว่าคอแห้ง ปากแห้งง่าย ปัสสาวะในปริมาณมากและบ่อยกว่าปกติ ปัสสาวะมีสีอ่อนหรือสีใสเหมือนน้ำเปล่า ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริวบ่อย แนะนำให้รีบเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ
เครื่องกรองน้ำ ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องกรองน้ำดื่มที่มีระบบกรองน้ำดื่มคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
