ด้วยวิถีชีวิตต่าง ๆ ส่งผลให้ใครหลายคนละเลยการดื่มน้ำเท่าที่ควร ทั้งการดื่มน้ำเปล่าสะอาดในปริมาณที่น้อยลงหรือดื่มน้ำชนิดอื่นมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน, เครื่องดื่มชูกำลัง หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่น้ำเหล่านั้นกลับไม่ตรงตามความต้องการของร่างกายเราแม้แต่น้อย แถมยังเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ในระยะยาวอีกด้วย วันนี้เราจะขอพาทุกคนมาหาคำตอบไปด้วยกันว่าทำไมเราถึงต้องดื่มน้ำสะอาดทุกวันด้วย น้ำชนิดไหนถึงจะเป็นน้ำเปล่าที่สะอาดบริสุทธิ์จนสามารถดื่มได้โดยไม่ต้องกังวลอันตรายใด ๆ ตามมา และควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอเหมาะต่อร่างกายของคุณ
ทำไมต้องดื่มน้ำสะอาดทุกวัน
ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยน้ำประมาณ 70% ซึ่งในแต่ละเซลล์จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 85% น้ำเป็นตัวกลางของกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยและดูดซึมอาหาร, ระบบขับถ่าย, ระบบไหลเวียนโลหิต และอื่น ๆ อีกมาก หากร่างกายได้รับน้ำเข้าไปในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายขับถ่ายของเสียน้อยลง, อุณหภูมิภายในร่างกายไม่คงที่, หายใจไม่สะดวก อาจรุนแรงถึงขั้นช็อกหมดสติจากภาวะขาดน้ำได้อีกด้วย หรือหากปล่อยให้ร่างกายไม่ได้ดื่มน้ำมากกว่า 3 วัน อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้อีกด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่ควรละเลยการดื่มน้ำเป็นอันขาด ทั้งนี้น้ำดื่มที่สะอาดจะต้องเป็นน้ำที่ปราศจากการปรุงแต่งรสชาติและสิ่งปนเปื้อนอย่างจุลินทรีย์และแบคทีเรียอีกด้วย
ข้อดีของการดื่มน้ำสะอาดทุกวัน
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก บรรเทาความหิวระหว่างมื้อได้เป็นอย่างดี
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวพรรณสดใส ไม่แห้งกร้าน
- ชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร
- บรรเทาอาการปวดหัวและไมเกรนอันเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ
- บรรเทาความเหนื่อยล้าจากการดื่มน้ำน้อยจนทำให้เซลล์ต่าง ๆ มีประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง
- ช่วยกระตุ้นให้สมองปลอดโปร่ง ร่างกายตื่นตัว กระฉับกระเฉงขึ้น
- บรรเทาอาการท้องผูกเนื่องจากกากอาหารเคลื่อนตัวยาก
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสป่วยเป็นโรคต่าง ๆ
- รักษาสมดุลของความเป็นกรด – ด่างในร่างกาย
- รักษาอุณหภูมิในร่างกายให้สมดุลจากสภาพอากาศที่ร้อนหรือการออกกำลังกายจนสูญเสียน้ำในร่างกายมากกว่าปกติ
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของวัยและโรคของความเสื่อมต่าง ๆ ได้แก่ โรคกระดูกพรุน, โรคข้อกระดูกอ่อนเสื่อม และโรคผิวหนัง
น้ำแบบไหนถึงเรียกว่าน้ำดื่มสะอาด
น้ำดื่มสะอาดที่ดีจะต้องผ่านกระบวนการกรองจากเครื่องกรองน้ำระบบ RO ซึ่งเป็นระบบกรองน้ำที่ใช้เยื่อเมมเบรนที่ทำจากใยสังเคราะห์เซลลูโลสความละเอียดมากถึง 0.0001 ไมครอน โดยจะกรองน้ำแบบออสโมซิสย้อนกลับผ่าน ทำให้สารละลายที่ปนเปื้อนมาจากแหล่งน้ำซึ่งมีขนาด 50 – 0.0002 ไมครอน ไม่ว่าจะเป็นไวรัสและแบคทีเรีย, โลหะหนัก และสารพิษต่าง ๆ เล็ดลอดผ่านเยื่อกรองไม่ได้และถูกกำจัดออกจากระบบทันที มีเพียงน้ำบริสุทธิ์เท่านั้นที่ลอดผ่านเข้ามาในระบบได้ โดยน้ำที่ได้สามารถนำมาดื่มหรือใช้ประกอบอาหารได้ทันที นอกจากนี้ยังเป็นน้ำที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ร่างกายจึงดูดซึมเข้าไปใช้ยังเซลล์ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าน้ำสะอาดที่กรองผ่านเครื่องกรองน้ำระบบอื่น
เครื่องกรองน้ำ RO นวัตกรรมเพื่อสุขภาพดีของคนรุ่นใหม่
ควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่ถึงจะตรงต่อความต้องการของร่างกาย
หลายคนคงเคยได้ยินมาพอสมควรว่าคนเราควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว (ประมาณ 1.5 – 2 ลิตร/วัน) แต่หากคุณมีเวลาสักนิด ทางเราขอแนะนำให้คำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันโดยอ้างอิงจากสูตรดังต่อไปนี้
“น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2”
เช่น น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม × 2.2 × 30 / 2 จะเท่ากับ 1,980 มิลลิลิตร/วัน
หากคุณไม่แน่ใจว่าปริมาณน้ำที่ดื่มเพียงพอตามสูตรหรือไม่ ทางเราแนะนำให้ซื้อกระติกน้ำที่บอกปริมาณน้ำ แล้วกดน้ำจากเครื่องกรองใส่กระติกให้ตรงตามปริมาณที่ต้องการจะดีที่สุดค่ะ นอกจากจะช่วยให้ทราบปริมาณน้ำที่ตรงเป๊ะแล้วยังช่วยลดปริมาณขยะจากการซื้อน้ำขวดดื่มได้อีกด้วยนะคะ
เราควรดื่มน้ำช่วงไหนของวันบ้าง
- ดื่ม 1 แก้วทันทีหลังตื่นนอน เนื่องจากสมองประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 75% ซึ่งการนอนพักผ่อนจะเป็นช่วงที่ร่างกายไม่ได้รับน้ำเข้าสู่ร่างกายเหมือนช่วงเวลาอื่น ดังนั้นการดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและช่วยให้สมองได้รับน้ำที่สูญเสียไป ส่งผลให้รู้สึกปลอดโปร่งด้วย และที่สำคัญควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น เพราะถ้าคุณดื่มน้ำร้อนเกินไป นอกจากจะระคายเคืองช่องปากแล้ว ยังทำให้ไตเสียหายในระยะยาวด้วย
- ดื่ม 1 แก้ว เวลา 08.00 น. ควรดื่มก่อนมื้อเช้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ป้องกันน้ำไม่ให้ไปรบกวนระบบย่อยอาหารจนท้องอืดและทำให้กินข้าวได้น้อยลง
- ดื่ม 1 แก้ว เวลา 09.00 – 10.00 น. นอกจากจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นแล้ว ยังกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขับถ่ายง่าย
- ดื่ม 2 แก้ว (หลังมื้อกลางวัน) เวลา 13.00 – 16.00 น. แนะนำให้จิบเป็นระยะ ๆ ช่วยดับกระหายและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไปในตัว ทั้งนี้ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะจะทำให้ปวดท้องปัสสาวะบ่อยและกระหายน้ำง่ายขึ้น
- ดื่ม 2 แก้ว (ก่อนมื้อเย็น) เวลา 17.00 – 19.00 น. ก่อนมื้ออาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไปรบกวนระบบย่อยอาหารจนท้องอืดและทำให้กินข้าวได้น้อยลง
- ดื่ม 1 แก้ว เวลา 19.00 – 21.00 น. แนะนำให้จิบเป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยให้ระบบเลือดและระบบลำไส้ทำงานได้ดี แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป เพราะร่างกายไม่ได้ทำงานหนักเหมือนช่วงอื่นของวัน
- ดื่ม 1 แก้วก่อนนอน (ไม่เกินเที่ยงคืน) น้ำแก้วสุดท้ายนี้จะช่วยชะล้างสิ่งตกค้างที่อยู่ภายในลำไส้ตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ขอแนะนำว่าไม่ควรดื่มก่อนเวลานอนทันที เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึกและง่วงซึมตลอดวันง่ายยิ่งขึ้นจากการนอนหลับไม่สนิทด้วย
สายสุขภาพต้องรู้!! ตารางดื่มน้ำด่างเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
ทำไมต้องดื่มน้ำสะอาดจากเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ Live healthy
ทางเรามีเครื่องกรองน้ำให้คุณเลือกซื้อมากมายตามรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่ หมวดพรีเมี่ยม ซีรี่ย์ KYK, หมวดระบบกรองแบบ Nano Alkaline และหมวดระบบกรองแบบ RO Alkaline เราเป็นบริษัทจัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำด่างมานานถึง 13 ปี จึงเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าผู้ใช้มากมาย ทั้งสถานพยาบาล, คลินิก, หน่วยงานและประชาชนทั่วไปที่หันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการดื่มน้ำสะอาดคุณภาพดี ทำให้เรามียอดขายอันดับ 1 ในด้านน้ำอัลคาไลน์ในประเทศไทย
นอกจากคุณภาพเครื่องกรองน้ำที่ดีเยี่ยม ทางเรายังมีบริการแบบ On Site Service คุณจึงไม่ต้องยกเครื่องมาที่ศูนย์ด้วยตัวเองหากเครื่องมีปัญหา เพราะเรามีทีมงานพร้อมดูแลคุณถึงบ้าน (ตามจังหวัดที่มีศูนย์บริการ) อีกทั้งทางเรายังคงใช้ขนาดไส้กรองขนาดเดิม แม้จะเปลี่ยนบอดี้หรือดีไซน์ก็ตาม หมดปัญหาที่ต้องซื้อเครื่องกรองน้ำใหม่ให้เหมาะสมกับไส้กรอง นอกจากนี้ตัวเครื่องของเราสามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี จึงเหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพและผู้ที่ต้องการประหยัดค่าน้ำดื่มในระยะยาวอีกด้วย
หากคุณอ่านจบแล้วสนใจซื้อน้ำสะอาดจากเครื่องกรองน้ำ RO คุณภาพดีสักเครื่อง การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที
สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ