9 อันตรายจากการดื่มน้ำเย็นจัด อาจร้ายแรงกว่าที่คุณคิด
สำหรับใครที่ชื่นชอบน้ำเย็นเป็นชีวิตจิตใจ คอแห้งเมื่อไหร่เป็นต้องจิบให้ชื่นใจสักหน่อย หรือต่อให้อากาศหนาวแค่ไหนก็ต้องดื่มสักหน่อย บทความนี้อาจไม่ถูกใจคุณสักเท่าไหร่นัก เพราะวันนี้เราจะมาบอก 9 อันตรายจากการดื่มน้ำเย็นจัด อาจร้ายแรงกว่าที่คุณคิด ว่าแต่มีอะไรบ้างมาอ่านกันได้เลยค่ะ
1. ร้อนใน
มนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น ยิ่งดื่มน้ำเย็นเข้าสู่ร่างกายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ร่างกายปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นจนเกิดร้อนใน ริมฝีปากบวมแดงและรู้สึกเจ็บบริเวณที่เป็นร้อนใน แม้ว่าร้อนในจะหายได้เองตามธรรมชาติภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่หากมีแผลร้อนในเกิดขึ้นมากกว่า 1 จุด และแผลขยายกว้างขึ้น หรือมีไข้สูงร่วมด้วย ก็อาจสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตได้เช่นกัน ทางที่ดีควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องหรือหากคุณอยากดื่มจริง ๆ ให้เปลี่ยนมาเป็นของหวานเย็น ๆ อย่างไอศกรีมหรือน้ำแข็งไส แล้วดื่มน้ำอุ่นตามจะดีกว่าค่ะ นอกจากนี้อาจดื่มน้ำสมุนไพรอย่างน้ำตะไคร้หรือน้ำมะพร้าว ซึ่งมีสรรพคุณช่วยคลายความร้อนออกจากร่างกายได้ดีอีกด้วยค่ะ
2. ปัสสาวะบ่อยขึ้น
นอกจากการดื่มน้ำบ่อยเกินความต้องการของร่างกายแล้ว การดื่มน้ำที่เย็นจัดก็ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากความเย็นจากน้ำส่งผลกระทบต่อไตโดยตรง เพราะไตเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองน้ำที่เย็นออกเพื่อรักษาสมดุลของอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น อีกทั้งอั้นปัสสาวะได้ไม่นานเท่าคนที่ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องอีกด้วย
3. ย่อยอาหารยากขึ้น
หลังรับประทานอาหารเสร็จ หลายคนมักจะดื่มน้ำตามทันที โดยเฉพาะน้ำเย็นที่ให้ความรู้สึกดับกระหายได้ดีกว่าการดื่มน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น แต่ในความเป็นจริงนั้นกระเพาะอาหารจะหลั่งเอนไซม์ออกมาเพื่อย่อยอาหาร โดยปกติแล้วเอนไซม์จะมีอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส เท่ากับร่างกายของคนเรา แต่หากคุณดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าเอนไซม์ จะทำให้ประสิทธิภาพของเอนไซม์ลดลง นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อในระบบย่อยอาหารเกิดอาการชา ประสิทธิภาพการย่อยอาหารจึงลดลงตาม ก่อให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อหรืออาจรุนแรงถึงขั้นเกิดกรดไหลย้อน
4. สมองทำงานช้าลง
อุณหภูมิร่างกายของมนุษย์จะอยู่ที่ 37 °C หากดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นจัดจะทำให้ปมประสาทสฟีโนพาลาทีน (Sphenopalatine ganglion) บริเวณเพดานปากและหลังคอถูกกระตุ้น จนเกิดอาการปวดจี๊ดบริเวณสมอง นอกจากนี้ความเย็นจากน้ำยังกระตุ้นให้หลอดเลือดในระบบประสาทหดและคลายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติที่ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียความร้อน ส่งผลให้เกิดอาการปวดจี๊ด ประมาณ 20 – 60 วินาที แม้จะเป็นอาการที่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงอย่างผู้ที่ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำและผู้ป่วยโรคไมเกรน
5. ไอเป็นประจำ
เมื่อน้ำเย็นไหลเข้าสู่ลำคอ ร่างกายจะปรับน้ำเย็นให้มีอุณหภูมิเท่ากับภายในร่างกาย ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและกระตุ้นให้ไอง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลงในช่วงเวลาสั้น ๆ หากคุณมีอาการไออันเนื่องมาจากอาการป่วย แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นจะดีที่สุด เนื่องจากน้ำอุ่นช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งน้ำลายเพื่อหล่อเลี้ยงในลำคอมากขึ้น อีกทั้งช่วยละลายเสมหะได้อย่างดีเยี่ยม
6. เจ็บป่วยง่ายขึ้น
แม้ว่าน้ำเย็นจะช่วยคลายร้อนได้ดี แต่หากดื่มในช่วงที่อุณหภูมิร้อนจัด อาจทำให้ป่วยง่ายกว่าที่คิดเนื่องจากร่างกายต้องปรับตัวตามอุณหภูมิของเหลวที่เข้ามาในร่างกาย นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคนด้วย
7. ปวดเมื่อยตามร่างกาย
เนื่องจากความเย็นของน้ำส่งผลให้กระเพาะอาหารและม้ามอ่อนแอ หากม้ามซึ่งเป็นอวัยวะที่ควบคุมกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเกิดอ่อนแอลง จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อง่ายขึ้น โดยเฉพาะอาการปวดท้องปวดเอว เข่าและขาอ่อนแรง
8. เจ็บคอง่ายขึ้น
กรณีที่คุณป่วยเพราะต่อมทอนซิลอักเสบ, ไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้อไวรัสเอปสไตน์บาร์ ซึ่งก่อให้เกิดอาการเจ็บคออยู่แล้ว เมื่อน้ำเย็นไหลลงคอเข้าไปก็ยิ่งกระตุ้นอาการระคายเคืองบริเวณภายในลำคอให้มากขึ้น เป็นสาเหตุของการเจ็บคอมากกว่าเดิม ทางที่ดีควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะดีที่สุดค่ะ
9. จุกเสียดบริเวณหน้าอก
เป็นสิ่งที่พบได้บ่อย แม้จะไม่ใช่อาการอันตรายใด ๆ เกิดจากหลอดเลือดในระบบทางเดินอาหารเกิดการหดและขยายตัวเพื่อดูดซึมน้ำเย็น ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าน้ำอุณหภูมิห้อง ส่งผลให้จุกเสียดบริเวณหน้าอก
แล้วควรดื่มน้ำแบบไหนดี
1. น้ำอุณหภูมิห้อง
นอกจากจะช่วยดับความกระหายน้ำได้แล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำได้ดีกว่าน้ำเย็นด้วย และควรดื่มน้ำเย็นเพียงแค่ช่วงหลังออกกำลังกายซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายสูญเสียเหงื่อและร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย เนื่องจากน้ำเย็นจะช่วยระบายความร้อนออกไปได้ดีกว่าน้ำอุณหภูมิห้อง หรือหากคุณรู้สึกแน่นท้องเนื่องจากท้องผูกหรือตะคริวกินก็ตาม การดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดท้องได้อย่างดี
2. น้ำด่าง
นอกจากน้ำอุณหภูมิห้องแล้ว น้ำดื่มที่ดีจะต้องสะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อนเจือปนอยู่ในน้ำด้วยนะคะ ซึ่งน้ำด่างก็ถือเป็นอีก 1 ในชนิดของน้ำดื่มเพื่อสุขภาพที่คุณควรดื่มทุกวัน เพราะนอกจากจะสะอาดบริสุทธิ์แล้ว ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย
ทำไมถึงต้องดื่มน้ำด่างเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจน้ำด่างเพื่อสุขภาพจากเครื่องกรองน้ำด่างคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
