การดื่มน้ำด่าง

รวมข้อควรรู้ของการดื่มน้ำด่าง ก่อนตัดสินใจดื่มเพื่อสุขภาพ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หันมาให้ความสนใจกับน้ำด่างเพื่อสุขภาพแล้วล่ะก็ คุณอาจต้องทำความเข้าใจและศึกษาวิธีการดื่มน้ำด่างเบื้องต้นก่อนว่าจะหาดื่มน้ำชนิดนี้ได้จากที่ไหนบ้าง ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไร รวมถึงศึกษาวิธีเลือกดื่มอย่างไรให้เหมาะกับร่างกายของคุณมากที่สุด วันนี้เราจะมาอธิบายข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำด่างให้ฟังกันค่ะ

น้ำด่างคืออะไร

การดื่มน้ำด่าง

เป็นน้ำที่มีค่า pH ประมาณ 8 – 9 ถือว่าเป็นค่า pH ที่สูง หากเทียบกับน้ำดื่มทั่วไปที่มีค่า pH เพียง 7 น้ำด่างทำหน้าที่ปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างให้แก่ร่างกาย เนื่องจากร่างกายคนเรามีโอกาสได้รับกรดเกินจากอาหารและภาวะความเครียดสะสม นอกจากนี้น้ำด่างยังมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งแคลเซียม, โซเดียม, แมกนีเซียม และโพแทสเซียม และที่สำคัญน้ำด่างเป็นน้ำที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ร่างกายดูดซึมง่าย ช่วยให้ร่างกายขับล้างสารพิษออกได้ดีกว่าน้ำประเภทอื่น นอกจากนี้ยังมีประจุลบที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีให้แก่ร่างกาย ช่วยชะลอกระบวนการที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่วัยชรา อีกทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ อีกด้วย ในปัจจุบันเราสามารถหาดื่มน้ำด่างได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์สูงและเครื่องกรองน้ำด่างระบบ RO (Reverse Osmosis)

น้ำด่างอันตรายจริงมั้ย

การดื่มน้ำด่าง

แม้ว่ารสชาติของน้ำด่างจะแตกต่างจากรสชาติของน้ำกรองจากน้ำประปาทั่วไปตรงที่มีรสขมเกินไป จนใครหลายคนอาจส่ายหน้าหนี รวมถึงมีอาการวิงเวียนหลังจากดื่มน้ำด่างในช่วงแรก และดูอันตรายต่อร่างกาย แต่ที่จริงแล้วน้ำด่างกำลังขับล้างสารพิษออกจากเซลล์ในร่างกาย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองเฉียบพลันของร่างกาย แต่หากดื่มเป็นประจำแล้วร่างกายจะสร้างความรู้สึกคุ้นชินและไม่เกิดอาการเหล่านี้อีก แต่น้ำด่างที่ว่าอันตรายนั้นมาจากน้ำด่างเข้มข้นบรรจุขวด หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า น้ำขี้เถ้า โดยผู้ผลิตนำน้ำไปเจือจางเองเพื่อให้มีความเป็นด่าง หากใครหลงดื่มเข้าไปอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากน้ำด่างจะเข้าไปกัดกร่อนเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในร่างกาย เริ่มจากปาก, หลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร และยังลามไปถึงลำไส้อีกด้วย

นอกจากนี้น้ำด่างไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต, ผู้มีภาวะเหนื่อยง่าย บวมน้ำ หรืออยู่ในช่วงรักษาโรคมะเร็ง เนื่องจากกระบวนการดูดซึมแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องใช้พลังงานสูงกว่าปกติ อาจก่อให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย รวมถึงเด็กด้วย เนื่องจากระบบทางเดินอาหารยังเจริญไม่เต็มที่ แต่หากคุณต้องการดื่มน้ำด่างจริง ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มนะคะ

การดื่มน้ำด่างดีต่อร่างกายอย่างไร

การดื่มน้ำด่าง

  • น้ำด่างเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายเสื่อมตามวัยช้าลง
  • ลดกรดเกินในกระเพาะอาหารอันเนื่องมาจากพฤติกรรมเสี่ยง อย่างเช่น รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา, ดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, สูบบุหรี่ ฯลฯ
  • ลดความอยากอาหาร ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ดี ทั้งนี้ควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่กันไปด้วย
  • ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ระบบขับถ่ายจึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เนื่องจากเซลล์ผิวหนังของคนเรามีส่วนประกอบของน้ำถึง 30%
  • บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันไขข้อเสื่อมอันเนื่องมาจากน้ำในข้อเข่าแห้งซึ่งทำให้ปวดตึงหรือบาดเจ็บที่เข่าง่าย
  • ป้องกันร่างกายจากภาวะขาดน้ำ หรือการดื่มน้ำน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย อันเป็นสาเหตุของผิวแห้ง เหี่ยวย่นง่ายขึ้น
  • ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานเต็มที่ ป้องกันภาวะเลือดข้นที่เกิดจากการดื่มน้ำน้อยเกินไปจนอยู่ในภาวะขาดน้ำและทำให้แบคทีเรียในร่างกายแพร่เชื้อง่าย
  • ช่วยให้สมองรู้สึกสดชื่น ลดภาวะความเครียดได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งลดอาการปวดหัวจากความเครียดและกระตุ้นการทำงานของสมองอีกด้วย
  • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ เนื่องจากน้ำที่ดื่มเข้าไปจะช่วยขับความร้อนส่วนเกินออกจากร่างกายในรูปแบบของเหงื่อ

การดื่มน้ำด่างให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรดื่มอย่างไร

การดื่มน้ำด่าง

1. ดื่มน้ำตามช่วงเวลา

  • ดื่ม 1 แก้ว หลังตื่นนอน เมื่อร่างกายเข้าสู่สภาวะขาดน้ำจากการนอนหลับมาตลอดทั้งคืน ทางที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นก็คือการดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอนเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป และที่สำคัญคุณควรดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ อาจเป็นน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น ไม่ควรดื่มน้ำที่ร้อนจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกระคายเคืองช่องปากแล้ว ยังทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย ไตเสียหายง่ายขึ้น หากรุนแรงมากอาจทำให้เซลล์สมองอักเสบได้ ดังนั้นการดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิเหมาะสม นอกจากจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวแล้ว ยังช่วยให้สมองปลอดโปร่งด้วย เนื่องจากสมองของคนเราประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 75%
  • ดื่ม 1 แก้ว เวลา 08.00 น. แนะนำให้ดื่มก่อนรับประทานมื้อเช้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบย่อยอาหารถูกรบกวนโดยน้ำ จนเกิดอาการท้องอืดและกินข้าวน้อยลง
  • ดื่มน้ำ 1 แก้ว เวลา 09.00 – 10.00 น. ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียออกง่ายขึ้น
  • ดื่มน้ำ 2 แก้ว (หลังรับประทานมื้อกลางวัน) เวลา 13.00 – 16.00 น. แนะนำให้จิบเป็นระยะ นอกจากจะดับกระหายแล้วยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะนอกจากจะดับกระหายได้ไม่นานแล้ว ยังปวดท้องปัสสาวะง่าย ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ด้วย
  • ดื่มน้ำ 2 แก้ว (ก่อนรับประทานมื้อเย็น) เวลา 17.00 – 19.00 น. หรือก่อนรับประทานอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันไม่ให้ระบบย่อยอาหารถูกรบกวน จนเกิดอาการท้องอืดและกินข้าวน้อยลง
  • ดื่มน้ำ 1 แก้ว เวลา 19.00 – 21.00 น. เน้นจิบเป็นระยะ ๆ จะช่วยให้ระบบเลือดและระบบลำไส้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป เนื่องจากร่างกายไม่ได้ทำงานหนักเหมือนช่วงอื่นของวัน
  • ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนนอน (ไม่เกินเที่ยงคืน) จะช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ ทั้งนี้แนะนำว่าไม่ควรดื่มก่อนเวลานอนทันที เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึก ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะบ่อย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการนอนไม่หลับหรือหลับไม่เต็มอิ่ม เวลาตื่นขึ้นมาอาจรู้สึกง่วงซึมและเหนื่อยง่ายตลอดทั้งวัน

2. ดื่มน้ำตามความต้องการของร่างกาย

หากคุณต้องการดื่มน้ำให้ตรงตามความต้องการของร่างกายคุณมากที่สุด เราขอแนะนำให้คำนวณจากสูตรนี้ “น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2” ตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม × 2.2 × 30 / 2 จะเท่ากับ 1,650 มิลลิลิตร

เครื่องกรองน้ำด่างแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด

เครื่องกรองน้ำในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ระบบ ได้แก่

ระบบกรองน้ำดื่ม

  • ระบบ Reverse Osmosis (RO) ทำงานโดยใช้เนื้อเยื่อเมมเบรนขนาด 0.01 ไมครอน ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกและเชื้อโรคไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาในน้ำและกำจัดออกจากระบบทันที ระบบ RO สามารถรองรับแหล่งน้ำได้ทุกประเภท ส่วนน้ำจากกระบวนการกรองด้วยระบบนี้เป็นน้ำบริสุทธิ์และมีโมเลกุลขนาดเล็ก เป็นตัวทำละลายที่เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ร่างกายจึงดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที แถมยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีกว่าน้ำดื่มทั่วไปอีกด้วย
  • ระบบ Ultraviolet (UV) ทำงานโดยใช้แสง UV ในการฆ่าเชื้อโรคจากแหล่งน้ำและผลิตน้ำดื่มออกมา ข้อดีของระบบนี้คือการรักษาแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเอาไว้ในน้ำ เหมาะสำหรับใช้งานภายในบ้านและสำนักงาน แถมยังทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองง่าย เหมาะสำหรับแหล่งน้ำดิบอย่างน้ำประปาที่ใช้กันในกรุงเทพฯ
  • ระบบ Ultra Filtration (UF) ทำงานโดยใช้เนื้อเยื่อเมมเบรนขนาด 0.01 ไมครอนในการกรองความขุ่น, สารแขวนลอย และสิ่งสกปรกในน้ำ เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม โดยทั่วไปใช้สำหรับเตรียมน้ำให้ระบบ RO ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของไส้กรองเมมเบรนให้นานขึ้น แถมยังใช้ในการบำบัดน้ำเสียเพื่อนำมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดตะกอน, ลดความถี่ในการบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำระบบ RO และเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบ RO

ทำไมต้องดื่มน้ำด่างจากเครื่องกรองน้ำ Live healthy

เราเป็นบริษัทจัดจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำด่างมานานถึง 13 ปี จนเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าผู้ใช้มากมาย ทั้งสถานพยาบาล, หน่วยงานราชการและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพตัวเอง ทำให้เรามียอดขายด้านน้ำด่างเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย เนื่องจากความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ทางเราจึงพัฒนาเครื่องกรองน้ำออกมาวางจำหน่ายทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่ หมวดพรีเมี่ยม ซีรี่ย์ KYK, หมวดระบบกรองแบบ Nano Alkaline และหมวดระบบกรองแบบ RO Alkaline ตามรูปแบบการใช้งาน

นอกจากคุณภาพเครื่องกรองน้ำที่ดีเยี่ยมแล้ว ทางเราให้ความสำคัญกับการให้บริการแบบ On Site Service เมื่อเครื่องกรองมีปัญหา คุณจึงไม่ต้องยกเครื่องมาที่ศูนย์บริการด้วยตัวเอง เรามีทีมงานพร้อมดูแลคุณถึงบ้าน (ในจังหวัดที่มีศูนย์บริการ) บางยี่ห้อเปลี่ยนโฉมทุก ๆ 5 ปี ทำให้ต้องยกเลิกการผลิตไส้กรองลงไป ภาระจึงตกอยู่กับลูกค้าที่ต้องซื้อเครื่องกรองใหม่ แม้จะเปลี่ยนบอดี้หรือดีไซน์ก็ตาม แต่ทางเรายังคงใช้ขนาดไส้กรองเท่าเดิม จึงหมดปัญหาต้องซื้อเครื่องใหม่ นอกจากนี้ตัวเครื่องของเรายังมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำดื่มในระยะยาวอีกด้วย

บทความที่น่าสนใจ

Shopping Cart