เครื่องกรองน้ำบาดาลที่ดีต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
แม้ว่าน้ำบาดาลจะเป็นน้ำที่มาจากแหล่งธรรมชาติก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสารปนเปื้อนแฝงอยู่ในน้ำด้วย ว่าแต่น้ำบาดาลนำมาดื่มได้เลยหรือไม่ ต้องกรองด้วยเครื่องกรองน้ำบาดาลระบบไหน เครื่องกรองที่ดีต้องมีคุณสมบัติอย่างไร มาดูกันค่ะ
น้ำบาดาลคือน้ำแบบไหน ดื่มได้มั้ย
น้ำบาดาลเป็นน้ำที่เกิดจากการสะสมของแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน, เมฆหมอก รวมถึงไอน้ำที่ตกลงสู่พื้นดินและเปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำซึมเข้าไปตามรูพรุนของชั้นหิน ซึ่งน้ำเหล่านี้จะฝังลึกลงไปใต้ดินหลายกิโลเมตร น้ำบาดาลแบ่งเป็น 2 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 (ลึกประมาณ 40 -150 ฟุต) เป็นชั้นใกล้น้ำผิวดิน เกิดจากน้ำฝนและแหล่งน้ำไหลซึมลงไปในดิน เป็นระดับน้ำที่ไม่มีแรงดันมาก ส่วนชั้น 2 (ลึกประมาณ 150 -350 ฟุต) เป็นชั้นที่อยู่ลึกลงไปจากชั้นแรก มีน้ำเต็มทุกช่องว่าง จึงมีแรงดันน้ำอยู่ด้วย หากมีการสะสมน้ำเอาไว้เยอะ แรงดันน้ำอาจสูงจนพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินเป็นน้ำพุในที่สุด
น้ำบาดาลสามารถใช้อุปโภคหรือใช้สำรองแทนน้ำประปาได้ โดยเฉพาะใช้ในงานเกษตรและงานอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่เนื่องจากน้ำบาดาลมาจากแหล่งที่มีสิ่งปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ จึงไม่เหมาะสำหรับดื่มกิน แต่ที่จริงแล้วน้ำบาดาลดื่มได้ เพียงแต่ต้องผ่านการกรองจากเครื่องกรองน้ำระบบ RO ที่มีความละเอียดในการกรองสิ่งปนเปื้อนสูง น้ำบาดาลที่นำมากรองจึงเป็นน้ำบริสุทธิ์ 100% เมื่อดื่มเข้าไปร่างกายจึงดูดซึมเข้าสู่ร่างกายง่ายกว่าน้ำดื่มตามท้องตลาดทั่วไป
ทำไมต้องใช้เครื่องกรองน้ำบาดาลที่เป็นระบบ RO เท่านั้น
เนื่องจากเครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) มีไส้กรองเมมเบรนที่มีความละเอียดสูง ซึ่งเยื่อเมมเบรนในเครื่องกรองผลิตจากใยสังเคราะห์เซลลูโลสที่มีความละเอียดในการกรองมากถึง 0.0001 ไมครอน ทำให้สารปนเปื้อนที่มีขนาด 50 – 0.0002 ไมครอน ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก, สารเคมีจากยาฆ่าแมลง, ผงซักฟอก, แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่าง ๆ ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามายังเยื่อกรองได้ อีกทั้งเครื่องกรอง RO ทำงานด้วยระบบกรองแบบออสโมซิสย้อนกลับ (Reverse Osmosis) โดยใช้ความดันที่สูงกว่าความดันออสโมติกของสารละลายนั้น ๆ ดันตัวทำละลายให้ไหลออกจากสารละลายผ่านเยื่อเลือกผ่าน (Semipermeable Membrane) ซึ่งจะช่วยดักจับสิ่งปนเปื้อนในน้ำได้ง่าย คงเหลือไว้เพียงน้ำที่สะอาดเท่านั้นที่สามารถไหลผ่านไปได้ จากนั้นระบบจะกำจัดสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ออกจากระบบทันทีเพื่อไม่ให้มีสิ่งปนเปื้อนตกค้างอยู่ในระบบ น้ำที่ได้จากการกรองด้วยระบบ RO จึงมีความบริสุทธิ์ 100% คุณจึงมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าน้ำที่นำมากรองจะมาจากน้ำบาดาลที่มีโอกาสมีสิ่งปนเปื้อนมากน้อยแค่ไหน แต่เครื่องกรองน้ำระบบนี้ก็สามารถกรองให้สะอาดได้หมดจด ดื่มได้หายห่วง
หลักการทำงานของเครื่องกรองน้ำบาดาล
เครื่องกรองน้ำบาดาลระบบ RO ทำงานด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
- เริ่มจากปล่อยน้ำไหลผ่านไส้กรองที่มีความละเอียดในการกรองถึง 5 ไมครอน จากนั้นจึงกรองสิ่งสกปรกออกทั้งหมด เพื่อให้ได้น้ำที่บริสุทธิ์มากที่สุด
- จากนั้นจึงใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงดันเอาน้ำที่ผ่านการกรองแล้วไหลเข้าสู่เยื่อเมมเบรน
- กรองน้ำผ่านเยื่อเมมเบรนที่มีความละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน และส่งน้ำทั้งหมดไปยังขั้นตอนการแยกประเภท
- หลังจากกรองเสร็จแล้ว ระบบจะแบ่งน้ำออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ น้ำบริสุทธิ์ และน้ำเสีย (น้ำเข้มข้น) โดยน้ำเสียจะถูกส่งไปยังชุดควบคุมปริมาณน้ำทิ้งเพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำที่ต้องทิ้ง เพื่อนำน้ำเสียไปทิ้งผ่านโซลินอยด์วาล์ว (Solenoid Valve) ที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมการไหลของของไหล เพื่อกำจัดน้ำเสียออกไป จึงไม่มีสิ่งปนเปื้อนตกค้างภายในเครื่องกรอง
- ส่วนน้ำรีไซเคิลที่ไม่ได้กักเก็บไว้ในตัวถัง จะถูกส่งไปยัง Flow Meter เพื่อวัดปริมาณน้ำที่ได้ทั้งหมดและใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงส่งน้ำรีไซเคิลกลับไปสู่ไส้กรองเมมเบรน เพื่อรักษาสมดุลและความเร็วของไส้กรอง เพื่อถนอมอายุการใช้งานของไส้กรองให้นานยิ่งขึ้น
ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำบาดาลระบบ RO
ค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเครื่องกรองน้ำระบบอื่น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ด้วยว่าใช้วัสดุที่มีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น ไส้กรองน้ำ RO ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการดันน้ำเข้าสู่ไส้กรอง RO ซึ่งจะต้องสร้างแรงอัดฉีดมากพอเพื่อให้น้ำผ่านไส้กรอง RO ได้สะดวกขึ้น ซึ่งไส้กรองเมมเบรนของแต่ละแบรนด์จะมีอายุการใช้งานแตกต่างกัน ราคาจึงแตกต่างตามกันด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงตัว Housing, คุณภาพไส้กรอง, วัสดุพลาสติก รวมไปถึงแหล่งนำเข้าเครื่องกรองอีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงระบบของเครื่องกรองน้ำด้วยว่าใช้หรือไม่ใช้ไฟฟ้า หากใช้ไฟฟ้าร่วมด้วย ราคาก็จะสูงตาม แต่แลกกับประสิทธิภาพในการกรองและระยะเวลาการใช้งานเครื่องที่ยาวนานนั่นเอง
วิธีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำบาดาล
- เลือกจุดที่ต้องการติดตั้งโดยถอดชุดกระบอกเมมเบรน (Membrane) และ Post Carbon ออกแล้วจึงยึดเครื่องกรองน้ำให้แน่นหนา
- หมุนฝากระบอกเมมเบรนและนำไส้เมมเบรนใส่ในกระบอก
- แกะพลาสติกหุ้มไส้กรองและหมุนกระบอกเข้ากับตัวเครื่อง ขันกระบอกให้แน่น
- ต่อสายน้ำทิ้งเข้ากับ flow และต่อวาล์วเปิดปิดแทงค์เข้ากับตัวแทงค์
- พันเกลียว T-way กับ ball valve เข้าด้วยกัน จากนั้นจึงต่อเข้ากับท่อประปาและต่อสายน้ำโยงไปยังข้อต่อ 3 ทางของกระบอกแรก
- ติดตั้งฉากยึดก๊อกตามจุดที่ต้องการ ประกอบก๊อกเข้ากับฉากยึดก๊อก
- ต่อสายน้ำโยงเข้ากับไส้กรอง Post Carbon 10 จากนั้นเปิดใช้งานเครื่องกรองน้ำครั้งแรก เพื่อล้างระบบก่อนใช้งานจริง
ทำไมต้องเครื่องกรองน้ำบาดาล RO จาก Livehealthy
เรามีเครื่องกรองน้ำระบบ RO Alkaline รุ่น Hot and Cold สามารถกดน้ำอัลคาไลน์หรือน้ำด่างดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็นในราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพ มาพร้อมระบบการกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 5 ขั้นตอน ด้วย 4 ไส้กรอง ได้แก่ ไส้กรอง Sediment Filter, Pro Carbon Filter, Nano Filter และ Alkaline Carbon Block Filter ดังนี้
ขั้นที่ 1 ขั้นตอนดักสารอนุภาคใหญ่
ไส้กรอง Sediment Filter ทำหน้าที่ดักจับสารปนเปื้อนอนุภาคใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น, ตะกอน, กรวด, ทราย และสนิม ช่วยยืดอายุไส้กรองตัวอื่น ๆ ในเครื่องให้นานขึ้น
ขั้นที่ 2 ขั้นตอนการกรองด้วยคาร์บอนรอบแรก Pro Carbon Filter
ไส้กรองคาร์บอนจะช่วยดูดซึมและกำจัดกลิ่นคลอรีนและสารเคมีปนเปื้อนในน้ำ กำจัดสารอินทรีย์ออกจากน้ำประปา จากนั้นระบบจะปรับปรุงสี, กลิ่น และรสชาติของน้ำดื่มให้เหมาะกับการดื่ม
ขั้นที่ 3 กรองด้วยไส้กรองนาโน Nano Filter
- ไส้กรองนาโน Nano Filter ที่มีความละเอียด 0.01 ไมครอน ทำหน้าที่ดักจับและกำจัดแบคทีเรีย, สาหร่ายจากแหล่งน้ำ, เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ เช่น protozoa, พยาธิปากขอ giardia, ซีสต์ cysts นอกจากนี้ยังกำจัดโลหะ, ตะกั่ว, สนิม และสารแขวนลอยต่าง ๆ
- ไส้กรองที่สามารถกรองคอลลอยด์ ซึ่งเป็นสารแขวนลอยที่มีขนาด 0.01 ไมครอน
- ดักจับและกำจัดเชื้อโรคในน้ำได้มากถึง 99% โดยเฉพาะ E. coli และ Staphylococcus Aureus
- หลังจากกรองเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ 100%
ขั้นที่ 4-5 ไส้กรองอัลคาไลน์ คาร์บอน บล็อค Alkaline Carbon Block Filter
- โพสต์คาร์บอน Post Carbon Filter ทำหน้าที่กำจัดสารเคมีปนเปื้อน เช่น ฮอร์โมน, สารอินทรีย์ และคลอรีนที่ยังหลงเหลืออยู่ในน้ำออกให้หมด
- Alkaline Filter ทำหน้าที่ผลิตน้ำอัลคาไลน์ เพื่อปรับของเสียที่เป็นกรดเกินในร่างกายจากการเผาผลาญอาหาร โดยผลิตน้ำอัลคาไลน์ที่มีประจุลบ -150mv ถึง -350mv ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพื่อชะลอกระบวนการออกซิเดชั่น ทำให้น้ำมีโมเลกุลเล็กลงจาก 13 โมเลกุลต่อกลุ่มน้ำปกติ เหลือเพียง 6 โมเลกุลต่อกลุ่มน้ำอัลคาไลน์ ทำให้ร่างกายนำน้ำอัลคาไลน์ไปใช้ได้ทันที
6 จุดเด่นของเครื่องกรองน้ำ RO Alkaline Hot &Cold
- ให้คุณสมบัติเป็นน้ำอัลคาไลน์ pH 8.5 – 9.0 ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น
- ติดตั้งและดูแลง่าย ประหยัดพื้นที่ภายในห้อง
- ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำบรรจุขวด
- เราใช้ระบบการกรองมาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้เลยว่าน้ำที่ได้สะอาด มีแร่ธาตุ และค่า pH ที่เหมาะสำหรับร่างกาย
- นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ให้เลือกมากมาย ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ
- มีให้เลือกทั้งแบบตั้งโต๊ะและตั้งพื้น ตามความเหมาะสมของการใช้งาน
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจน้ำแร่ที่มาจากเครื่องกรองน้ำด่างคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
