น้ำเพื่อสุขภาพ

แนะนำน้ำเพื่อสุขภาพประเภทต่าง ๆ เพื่อการดูแลตัวเองที่ดียิ่งขึ้น

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หันมาให้ความสนใจกับสุขภาพ และกำลังมองหาน้ำเพื่อสุขภาพสำหรับดื่มกิน วันนี้เราจะมาแนะนำน้ำที่ดีต่อสุขภาพประเภทต่าง ๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการดื่มน้ำของคุณที่ดียิ่งขึ้น

แนะนำน้ำเพื่อสุขภาพ 4 ประเภทที่คนรักสุขภาพควรดื่ม

1. น้ำผักสด

น้ำเพื่อสุขภาพ

เป็นน้ำที่เกิดจากการแปรรูปผักโดยการปั่นผสมกัน โดยอาจใช้ผักเพียงอย่างเดียว หรืออาจผสมกับผลไม้ชนิดอื่นร่วมด้วย ส่วนผักที่นิยมนำมาปั่น ได้แก่ แคร์รอต, ผักชีฝรั่ง, ขึ้นฉ่าย, มะเขือเทศ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการนำส่วนผสมอื่นที่มีสรรพคุณเป็นยามาผสมร่วมด้วยเช่นกัน ได้แก่ ขึ้นฉ่าย, ขิง, กระเทียม ฯลฯ ซึ่งกระบวนการทำน้ำผักที่จะช่วยให้คุณได้รับคุณประโยชน์จากผักมากที่สุดก็คือการคั้นแยกน้ำและกากออกจากกัน ซึ่งจะทำให้กากในผักผลไม้ที่ย่อยไม่ได้จะถูกแยกออกไป เหลือเพียงแต่น้ำที่มีแต่สารอาหารล้วน ๆ จึงมีความเข้มข้นกว่าการรับประทานสดด้วยวิธีปกติ เช่น เมื่อเรารับประทานแคร์รอตแบบสด ๆ ร่างกายของเราจะดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้เพียง 1% ส่วนที่เหลืออีก 99% จะจับอยู่กับกากใย แต่ถ้าเป็นการคั้นน้ำแคร์รอต กากใยเหล่านั้นจะถูกแยกออกไป คุณจึงได้รับเบต้าแคโรทีนเกือบ 100% คุณจึงมั่นใจได้ว่าการคั้นน้ำผักผลไม้ดื่มทุกวัน ร่างกายของคุณจะได้รับวิตามิน เกลือแร่ และเอนไซม์เต็ม ๆ

คุณประโยชน์ที่ได้จากการดื่มน้ำผัก

  • ทานง่ายกว่าการทานผักร่วมกับมื้ออาหาร จึงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารในผักได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวง่าย เติมเต็มประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
  • บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส โดยเฉพาะแคร์รอต, มะเขือเทศ และกะหล่ำปลี
  • เพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญไขมันคอเลสเตอรอล ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ดีหากดื่มเป็นประจำ
  • บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันและไขมันในเลือด และที่สำคัญยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
  • ป้องกันการเกิดการอักเสบและภาวะกรดอะมิโนโฮโมซีสทีนในเลือดสูง (Hyperhomocysteinemia) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

คุณสามารถดื่มน้ำผักได้ทุกช่วงเวลาโดยเฉพาะช่วงเช้าซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายขับของเสียออกจากร่างกาย การดื่มน้ำผักจะช่วยเสริมให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น และดื่มอย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ และเคล็ด(ไม่)ลับที่เราขอแนะนำคือควรดื่มน้ำผักหลังจากปั่นหรือคั้นเสร็จทันที เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นาน อาจจะลดคุณค่าของสารอาหารที่อยู่ในน้ำผักได้ด้วย รวมถึงไม่ควรแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นนานกว่า 6 ชม. เพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางวิตามินไป แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดแบคทีเรียที่อาจทำให้ท้องเสียอีกด้วย นอกจากนี้คุณควรระวังการดื่มน้ำผักที่มีส่วนผสมของโซเดียมและน้ำตาลระดับสูง เช่น บีตรูต และมะเขือเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคอ้วนถามหา และต้องคัดสรรผักที่นำมาทำเป็นน้ำผักให้ดี เพราะอาจมียาฆ่าแมลงและสารปนเปื้อนในผักด้วย

2. นมไขมันต่ำ (Low fat)

น้ำเพื่อสุขภาพ

หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อว่า นมพร่องมันเนย เป็นนมที่ผ่านการแยกมันเนยออกเพียงบางส่วน จนเหลือไขมันในนมไม่เกิน 15% เท่านั้น นมที่ได้จึงมีพลังงานและไขมันลดลงหากเทียบกับนมทั่วไป จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือด, โรคหัวใจและความดัน โดยนมพร่องมันเนย 1 ส่วน ให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม, โปรตีน 8 กรัม และไขมัน 5 กรัม ในปริมาณ 240 มล. นมพร่องมันเนยมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบพาสเจอไรซ์ (Pasteurization) , ยูเอชที (UHT) และสเตอริไลซ์ (Sterilization) เป็นนมสดที่ให้พลังงานหรือแคลอรี่น้อยลง

คุณประโยชน์ที่ได้จากการดื่มนมไขมันต่ำ

  • เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เพราะนมอุดมไปด้วยแคลเซียม อีกทั้งป้องกันโรคกระดูกพรุนในวัยผู้ใหญ่ด้วย
  • นมอุดมไปโปรตีนช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
  • บำรุงผิวพรรณให้สดใสด้วยกรดแลคติกที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและผลัดเซลล์ผิวใหม่ นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ช่วยให้ผิวเรียบเนียน มีกรดอะมิโนช่วยสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวเต่งตึง ชุ่มชื้น อีกทั้งป้องกันมลพิษที่ทำให้ผิวเสียหายง่ายขึ้น
  • แคลเซียมจากนมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนยมีส่วนช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีและขัดขวางการสะสมไขมันในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมน้ำหนัก
  • นมวัวมีวิตามิน B1, 2 และ 12 ช่วยบำรุงระบบประสาท ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ดื่มนมไขมันต่ำช่วงไหนดี

  • ดื่มนมช่วง 05.00-07.00 น. หรือช่วงตื่นนอน เป็นช่วงเวลาที่ลำไส้ใหญ่เริ่มทำงาน นมจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ดื่มนมช่วง 07.00-09.00 น. หรือมื้อเช้า จะช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร
  • ดื่มนมช่วง 09.00-12.00 น. จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ส่งผลให้สมองกระปรี้กระเปร่า ความจำดีขึ้น
  • ดื่มนมช่วง 12.00-15.00 น. (แนะนำดื่มหลังอาหาร) จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะกระเพาะกับลำไส้เล็ก
  • ดื่มนมช่วง 15.00-17.00 น. เสริมสร้างประสิทธิภาพของกระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้กระเพาะปัสสาวะขับถ่ายของเสียได้ดีขึ้น
  • ดื่มนมช่วง 17.00-21.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายไม่ได้ใช้งานหนักเท่าช่วงเวลาอื่น การดื่มนมช่วงนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและหัวใจ
  • ดื่มนมช่วง 21.00-23.00 น. จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีและทำให้นอนหลับง่าย

3. ช็อกโกแลตร้อน

น้ำเพื่อสุขภาพ

เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการละลายช็อกโกแลตหรือผงโกโก้ นำไปผสมกับนมหรือครีมเล็กน้อย แล้วเติมน้ำร้อนตามลงไปจนเกิดเป็นช็อกโกแลตร้อนยอดนิยมของใครหลายคน

คุณประโยชน์ที่ได้จากการดื่มช็อกโกแลตร้อน

  • ช็อกโกแลตร้อนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต ควบคุมคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด
  • โพลีฟีนอลช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี
  • กระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี ผ่อนคลาย
  • สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ในช็อกโกแลตร้อนช่วยเพิ่มไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดคอเลสเตอรอล LDL จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • สารฟลาโวนอยด์ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ความจำดี ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
  • สารฟลาโวนอยด์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส
  • สารธีโอโบรมีน (Theobromine) และสารธีโอฟิลลีน (Theophylline) บรรเทาอาการไอเรื้อรังและขยายปอดให้หายใจสะดวกยิ่งขึ้น

ดื่มช็อกโกแลตร้อนช่วงไหนดี

ช็อกโกแลตร้อนจัดเป็น 1 ในน้ำเพื่อสุขภาพที่สามารถดื่มแทนน้ำเปล่าในช่วงเช้าได้ดี หรืออาจทานคู่กับขนมปังโฮลวีตหรือผลไม้ได้เช่นกัน โดยเราจะขอแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาที่ควรดื่ม ได้แก่

  • ดื่มช่วงเช้า ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า อีกทั้งกระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเตรียมความพร้อมได้ดีทีเดียว
  • ดื่มก่อนนอน เนื่องจากช็อกโกแลตร้อนมีสารอาหารที่ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด อีกทั้งเพิ่มฮอร์โมนเอ็นโดรฟินและเซโรโทนินที่ช่วยให้อารมณ์ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนในสมอง ช่วยให้คุณหลับง่ายขึ้น

4. น้ำด่าง (น้ำอัลคาไลน์)

น้ำด่างเพื่อสุขภาพ

อีก 1 ในน้ำเพื่อสุขภาพที่คนรักสุขภาพหลายคนให้ความสนใจในขณะนี้ก็คือน้ำด่าง หรือน้ำอัลคาไลน์ เป็นน้ำที่มีค่า pH ประมาณ 8 – 9 ซึ่งถือว่ามีค่า pH สูงถ้าเทียบกับน้ำดื่มทั่วไปที่มีค่า pH เพียง 7 เท่านั้น ด้วยความเป็นด่างจึงช่วยปรับสมดุลกรด-ด่างให้แก่ร่างกาย เนื่องจากร่างกายคนเรามีโอกาสได้รับกรดจากอาหาร นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายผสมอยู่ ได้แก่ แคลเซียม, แมกนีเซียม, โซเดียม และโพแทสเซียม แต่เนื่องจากน้ำด่างเป็นน้ำที่มีกลุ่มโมเลกุลขนาดเล็ก ร่างกายจึงดูดซึมง่าย ซึ่งจะช่วยขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีประจุลบซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีให้แก่ร่างกายอีกด้วย โดยน้ำด่างสามารถพบได้ในเครื่องกรองน้ำด่างที่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะเครื่องกรองน้ำระบบ RO หรือ Reverse Osmosis

เครื่องกรองน้ำ RO นวัตกรรมเพื่อสุขภาพดีของคนรุ่นใหม่

คุณประโยชน์ที่ได้จากการดื่มน้ำด่าง

  • ช่วยขับล้างพิษออกจากร่างกาย เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ขับถ่ายง่ายขึ้น
  • ลดอาการกรดเกินในกระเพาะอาหาร
  • ลดความอยากอาหาร ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ดี
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
  • ป้องกันโรคไขข้อเสื่อม บำรุงกระดูกให้แข็งแรง
  • ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • กระตุ้นการทำงานของสมอง รู้สึกสดชื่นง่าย ลดภาวะความเครียด
  • ยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุของความชรา
  • สร้างความสมดุลให้แก่เซลล์ในร่างกาย
  • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่

ทำไมต้องเครื่องกรองน้ำบาดาล RO จาก Livehealthy

เครื่องกรองน้ำ RO

เรามีเครื่องกรองน้ำระบบ RO Alkaline รุ่น Hot and Cold สามารถกดน้ำอัลคาไลน์หรือน้ำด่างดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็นในราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพ มาพร้อมระบบการกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 5 ขั้นตอน ด้วย 4 ไส้กรอง ได้แก่ ไส้กรอง Sediment Filter, Pro Carbon Filter, Nano Filter และ Alkaline Carbon Block Filter ดังนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 ดักสารอนุภาคใหญ่ โดยใช้ไส้กรอง Sediment Filter ทำหน้าที่ดักจับสารปนเปื้อนอนุภาคใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น, ตะกอน, กรวด, ทราย และสนิม ช่วยยืดอายุไส้กรองตัวอื่น ๆ ในเครื่องให้นานขึ้น
  • ขั้นตอนที่ 2 การกรองด้วยคาร์บอนรอบแรก Pro Carbon Filter โดยใช้ไส้กรองคาร์บอนเพื่อช่วยดูดซึม, กำจัดกลิ่นคลอรีนและสารเคมีปนเปื้อนในน้ำ, กำจัดสารอินทรีย์ออกจากน้ำประปา จากนั้นจึงปรับปรุงกลิ่น, สี และรสชาติของน้ำดื่มให้เหมาะสำหรับดื่มกิน
  • ขั้นตอนที่ 3 กรองด้วยไส้กรองนาโน Nano Filter โดยใช้ไส้กรองนาโน Nano Filter ที่กรองละเอียดถึง 0.01 ไมครอน ทำหน้าที่ดักจับและกำจัดแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ เช่น protozoa, พยาธิปากขอ giardia, ซีสต์ cysts รวมถึงโลหะ, ตะกั่ว, สนิม และสารแขวนลอยต่าง ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีไส้กรองที่สามารถกรองคอลลอยด์ ซึ่งเป็นสารแขวนลอยที่มีขนาด 0.01 ไมครอน ดักจับและกำจัดเชื้อโรคในน้ำได้มากถึง 99% โดยเฉพาะ E. coli และ Staphylococcus Aureus หลังจากกรองเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ 100%
  • ขั้นตอนที่ 4 – 5 ไส้กรองอัลคาไลน์ คาร์บอน บล็อก Alkaline Carbon Block Filter โพสต์คาร์บอน Post Carbon Filter ทำหน้าที่กำจัดสารเคมีปนเปื้อน เช่น ฮอร์โมน, สารอินทรีย์ และคลอรีนที่ยังหลงเหลืออยู่ในน้ำออกให้หมด ส่วน Alkaline Filter สำหรับผลิตน้ำอัลคาไลน์นั้นถูกใช้ปรับของเสียที่เป็นกรดเกินในร่างกายจากการเผาผลาญอาหาร โดยผลิตน้ำอัลคาไลน์ที่มีประจุลบ -150mv ถึง -350mv ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพื่อชะลอกระบวนการออกซิเดชั่น ทำให้น้ำมีโมเลกุลเล็กลงจาก 13 โมเลกุลต่อกลุ่มน้ำปกติ เหลือเพียง 6 โมเลกุลต่อกลุ่มน้ำอัลคาไลน์ ทำให้ร่างกายนำน้ำอัลคาไลน์ไปใช้ได้ทันที

สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจน้ำเพื่อสุขภาพอย่าง น้ำด่าง จากเครื่องกรองน้ำด่างคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

Shopping Cart