น้ำบาดาล กินได้ไหม

น้ำบาดาล กินได้ไหม ทำไมต้องกรองให้สะอาดก่อนดื่มเสมอ

สำหรับใครที่ต้องใช้แหล่งน้ำดิบซึ่งเป็นแหล่งน้ำบาดาลที่หลายคนเชื่อว่าสะอาด กินได้เลย แต่หลายคนก็อาจมองว่าน้ำบาดาลเป็นแหล่งน้ำดิบที่มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนมากมาย หากจะดื่มกินหรือนำมาใช้ก็ต้องกรองหรือต้มให้เดือดกว่าจะดีกว่า ว่าแต่น้ำบาดาล กินได้ไหม หรือต้องกรองก่อนดื่มทุกครั้ง แล้วควรกรองด้วยระบบกรองน้ำแบบไหนดี วันนี้ Live Healthy จะมาเล่าให้ฟัง

น้ำบาดาล กินได้ไหม

ต้องเข้าใจก่อนนะคะว่าน้ำบาดาลเป็นน้ำในบรรยากาศ เช่น ฝน หิมะ เมฆ ไอน้ำ ตกลงมาและแทรกซึมผ่านช่องว่างระหว่างรอยแตกของชั้นหินและชั้นดินตะกอนซึ่งถูกเก็บสะสมอยู่ใต้พื้นดิน แม้จะอยู่ใต้ชั้นหินชั้นดินลึกแค่ไหนแต่ก็ยังมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ภายในน้ำได้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าน้ำบาดาลจะสะอาดเนื่องจากไม่ได้อยู่บนพื้นดินเหมือนแหล่งน้ำดิบอื่น ๆ ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้สะอาดบริสุทธิ์ 100% หากนำมาดื่มกินทันทีโดยไม่ได้นำมาปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยการกรองและต้มเดือดให้เสร็จก่อน ก็อาจได้รับแบคทีเรียหรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน หากดื่มเป็นเวลานานก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาแบบเรื้อรัง ดังนั้นน้ำบาดาลจึงไม่สามารถนำมาดื่มกินได้ทันทีค่ะ

น้ำบาดาลกรองแล้วกินได้ไหม

ขึ้นอยู่กับคุณภาพของระบบกรองน้ำที่คุณใช้ค่ะ หากเป็นระบบกรองน้ำแบบธรรมดาที่ใช้ไส้กรองที่มีความละเอียดไม่เพียงพอก็อาจทำให้สิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ไหลผ่านสู่ระบบและเข้าไปสู่น้ำที่กรองได้ง่าย แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตได้มีการพัฒนาระบบเครื่องกรองน้ำให้มีประสิทธิภาพสูง สามารถกรองน้ำได้ทุกแหล่งน้ำดิบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำกร่อย น้ำทะเล หรือแม้แต่น้ำบาดาลก็ตาม โดยระบบกรองที่ถูกพัฒนานั้นจะเป็นระบบกรอง RO (Reverse Osmosis) ซึ่งเป็นระบบที่มีไส้กรองที่มีความละเอียดสูงถึง 0.0001 ไมครอน ที่สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนภายในน้ำได้หมด มีเพียงน้ำบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถลอดผ่านไส้กรองเข้าไปสู่ระบบได้ บวกกับมีขั้นตอนในการกรองมากถึง 5 ขั้นตอนที่สะอาดกว่าการกรองด้วยเครื่องกรองน้ำมาตรฐานทั่วไป จึงมั่นใจได้เลยว่าน้ำบาดาลที่กรองมาผ่านทางระบบ RO จึงสะอาด ปลอดภัย ดื่มเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมั่นใจแน่นอนค่ะ

เครื่องกรองน้ำระบบ ro ดีกว่าระบบอื่นอย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง

น้ำบาดาล ใช้อาบน้ำได้ไหม

ใช้อาบได้ค่ะ เพียงแต่จะต้องนำมาปรับปรุงสภาพน้ำให้พร้อมใช้อุปโภคบริโภคซะก่อนด้วยการกรองน้ำผ่านระบบกรองน้ำด้วยระบบกรองน้ำทั่วไปหรือระบบ RO ก็ได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากระบบกรองน้ำทั่วไปสามารถกรองสิ่งสกปรกได้ในระดับที่ดีพอ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายภายนอกแต่อย่างใดค่ะ แต่ทั้งนี้ก่อนนำน้ำบาดาลมากรองอย่าลืมนำน้ำมากรองในเบื้องต้นเพื่อกรองดินที่อาจปนเปื้อนมาอยู่กับน้ำด้วยนะคะ

ใช้น้ำบาดาล อันตรายไหม

หากคุณนำน้ำบาดาลมาใช้เลยโดยไม่ได้นำมากรองก่อนก็ถือว่าอันตรายพอสมควรค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่าน้ำบาดาลอาจมีสิ่งสกปรกเจือปนอยู่แน่นอน ต่อให้คุณไม่ได้นำมาดื่มโดยตรงแต่นำมาใช้อุปโภคในทางอื่น เช่น ซักผ้า ล้างจาน ก็อาจมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในเสื้อผ้าหรือจานชาม หากนำเสื้อผ้าที่ซักด้วยน้ำบาดาลไปใส่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง หรือหากนำจานชามไปใช้ทานอาหารก็อาจเสี่ยงที่เชื้อโรคหรือแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกันค่ะ แต่หากนำน้ำบาดาลไปรดน้ำต้นไม้ ล้างรถ หรือใช้ในงานเกษตรกรรมก็สามารถทำได้ ไม่เกินอันตรายใด ๆ ค่ะ

น้ำบาดาลมีสนิมไหม

มีแน่นอนค่ะ เนื่องจากน้ำบาดาลไม่ได้ผ่านการกรองคุณภาพมาก่อน เนื่องจากน้ำบาดาลมีปริมาณของสารละลายเหล็กมากพอสมควรซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บน้ำบาดาลที่ใช้มานานและไม่ได้บำรุงรักษาเท่าที่ควร, สภาพแวดล้อมของน้ำบาดาลที่เอื้อต่อการสะสมของแร่ธาตุอย่างแคลเซียม (Calcium) และแมกนีเซียม (Magnesium) ที่มากเกินไปจนทำให้น้ำบาดาลมีสนิม ท่อส่งน้ำบาดาลมีสนิมเอง หรือแม้แต่การขุดบ่อบาดาลที่ตื้นเกินไป ส่งผลให้น้ำบาดาลมีสนิม น้ำมีความกระด้าง ไม่สามารถดื่มใช้ได้ทันที ดังนั้นหากต้องการนำน้ำบาดาลมาใช้ก็จะต้องกำจัดสนิมเหล็กภายในน้ำให้หมดก่อนนะคะ

ทำยังไงให้น้ำบาดาลสะอาด

1. น้ำบาดาลใส่สารส้มได้ไหม

การใช้สารส้มเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้น้ำบาดาลสะอาดขึ้นในระดับหนึ่งก่อนจะนำไปกรองด้วยระบบกรองน้ำคุณภาพสูง แม้ว่าการแกว่งสารส้มประมาณ 30 นาที จะช่วยให้สิ่งสกปรกภายในน้ำเกิดการตกตะกอนและตกลงไปสู่ก้นภาชนะ แต่สิ่งสกปรกบางชนิดที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาอย่างเช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ก็ไม่สามารถตกตะกอนได้ ดังนั้นการแกว่งสารส้มจึงไม่สามารถทำให้น้ำบาดาลสะอาดได้ 100% นะคะ

2. น้ำบาดาลต้องใส่คลอรีนไหม

คลอรีนเป็นสารที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของน้ำบาดาลให้สะอาดยิ่งขึ้นและเป็นสารที่ถ้าได้รับในปริมาณที่พอดี ก็จะสามารถฆ่าเชื้อโรคภายในน้ำบาดาลได้โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยปริมาณคลอรีนที่เหมาะสมในน้ำดื่มจะต้องอยู่ที่ 2 หยด/น้ำ 1 ขวดลิตร ทั้งนี้อาจใช้ไอโอดีนแทนได้หากไม่มีคลอรีน โดยใช้ในอัตราส่วน ไอโอดีน 5 หยด/น้ำ 1 ขวดลิตร แล้ววางทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนนำมาอุปโภคบริโภคค่ะ

3. กรองน้ำบาดาลด้วยวิธีไหนดีที่สุด

ระบบกรองน้ำที่เหมาะกับน้ำบาดาลมากที่สุดจะเป็นระบบ RO (Reverse Osmosis) ค่ะ เนื่องจากระบบนี้เป็นระบบที่ทำงานด้วยหลักการออสโมซิสย้อนกลับ (Reverse Osmosis) โดยใช้ความดันสูงที่มากกว่าความดันออสโมติกของสารละลายนั้น ๆ ดันตัวทำละลายให้ไหลออกจากสารละลายผ่านเยื่อเลือกผ่าน (Semipermeable Membrane) และใช้เยื่อเมมเบรนที่มีความละเอียดสูงกว่าไส้กรองน้ำดื่มทั่วไปถึง 0.0001 ไมครอน ซึ่งเป็นความละเอียดที่สิ่งปนเปื้อนทุกชนิดไม่สามารถเล็ดลอดผ่านเข้าไปได้ คงเหลือไว้เพียงน้ำสะอาดเท่านั้น

เครื่องกรองน้ำบาดาลที่ดีต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

บทความที่น่าสนใจ

เครื่องกรองน้ำ RO ทำไมต้อง Live Healthy

สำหรับใครที่ต้องการดื่มน้ำสะอาดและกำลังมองหาเครื่องกรองน้ำดื่มที่มีระบบกรองน้ำดื่มคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

Shopping Cart